简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ก.ล.ต.ปรับปรุงเกณฑ์ เพิ่มเหรียญ USDC-USDT เข้าบัญชีคริปโทเคอร์เรนซี
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์บัญชีรายชื่อคริปโทเคอร์เรนซีที่ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด เพื่อให้ผู้ออกเสนอขายโทเคนดิจิทัล (Issuer) รับคริปโทเคอร์เรนซีเป็นการตอบแทน และผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) รับคริปโทเคอร์เรนซีจากผู้ลงทุนหรือ Issuer ในการทำธุรกรรม และเพื่อให้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลกับคริปโทเคอร์เรนซีได้เพิ่มเติมอีก 2 สกุล ได้แก่ USD Coin (USDC) และ Tether (USDT) โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป
ตามที่ ก.ล.ต. ได้กำหนดบัญชีรายชื่อคริปโทเคอร์เรนซีที่ Issuer, ICO Portal, และศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถรับเป็นการตอบแทนหรือทำธุรกรรม หรือใช้ซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล โดยปัจจุบันมีจำนวน 5 รายชื่อ ได้แก่ Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), Ripple (XRP), Stellar (XLM) และคริปโทเคอร์เรนซี ที่ใช้ในการทดสอบการชำระราคาที่มีการกำหนดเงื่อนไขอัตโนมัติ (Programmable Payment) ภายใต้ Enhanced Regulatory Sandbox ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดังนั้น เพื่อให้หลักเกณฑ์
มีความยืดหยุ่นในการประกอบธุรกิจมากขึ้น ก.ล.ต. จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการเกี่ยวกับการปรับปรุงรายชื่อคริปโทเคอร์เรนซีที่ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 โดยมีผู้แสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยกับหลักการและร่างประกาศดังกล่าว
ก.ล.ต. จึงออกประกาศเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์บัญชีรายชื่อคริปโทเคอร์เรนซีที่ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด* เพื่อรองรับให้ Issuer สามารถรับคริปโทเคอร์เรนซีเป็นการตอบแทน ICO Portal รับคริปโทเคอร์เรนซีจากผู้ลงทุนหรือ Issuer ในการทำธุรกรรม และผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลกับคริปโทเคอร์เรนซีได้เพิ่มเติมอีก 2 สกุล ได้แก่ เหรียญ USDT และ USDC
ทั้งนี้ การออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าว มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป
ขอบคุณ สำนักข่าวอินโฟเควสท์
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
“Bitcoin Pizza Day” เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของคริปโตเคอร์เรนซี่ โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2010 เมื่อโปรแกรมเมอร์ชาวฟลอริดาชื่อ Laszlo Hanyecz ใช้ Bitcoin จำนวน 10,000 เหรียญซื้อพิซซ่า 2 ถาด ถือเป็นครั้งแรกที่ Bitcoin ถูกใช้ในการซื้อสินค้าจริงในชีวิตประจำวัน แม้เหรียญเหล่านั้นจะมีมูลค่าเพียง 1,300 บาทในตอนนั้น แต่หากเก็บไว้จนถึงปัจจุบัน มูลค่าจะทะลุ 33,000 ล้านบาท เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยน Bitcoin จากแนวคิดในกลุ่มเล็ก ๆ ให้กลายเป็นสินทรัพย์ระดับโลกที่มีอิทธิพลทางการเงินอย่างมหาศาล.
บทความนี้พาย้อนรอยคดีแชร์ลูกโซ่ในโลกคริปโต ตั้งแต่ BitConnect, OneCoin, PlusToken ไปจนถึงโปรเจกต์ไทยอย่าง HashBX และฟีเวอร์ ICO ในปี 2017–2018 สะท้อนให้เห็นรูปแบบหลอกลวงที่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหน้าตา แต่ยังคงใช้กลยุทธ์เดิมคือ “สัญญาผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น” โดยแฝงเทคโนโลยีทันสมัยมาเพิ่มความน่าเชื่อถือ บทเรียนสำคัญคือ นักลงทุนต้องระวังกับคำพูดที่ดูดีเกินจริง และควรตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยได้ในระยะยาว.
บทความนี้อธิบาย “ทฤษฎีแมลงสาบ” ในโลกคริปโต โดยเปรียบคริปโตเคอเรนซีกับแมลงสาบที่อยู่รอดได้แม้ในสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ด้วยคุณสมบัติอย่างการกระจายศูนย์ ต้านการเซ็นเซอร์ และการปรับตัวอย่างรวดเร็ว บทสรุปคือ คริปโตไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แค่อยู่รอดและพัฒนาได้ก็เพียงพอ.
จากฮีโร่สู่ผู้ต้องหา! “โด ควอน” อดีตผู้ก่อตั้งโปรเจกต์ Terra ที่เคยสร้างเหรียญพันล้านอย่าง LUNA และ UST พังไม่เป็นท่าในปี 2022 จนกลายเป็นวิกฤตโลกคริปโต ถูกมองว่าเป็นต้นเหตุของ “ระบบล้ม” ระดับโลก แถมยังเคยเปิดเหรียญ THT ชนแบงก์ชาติไทยอีกด้วย บทเรียนราคาแพงของความมั่นใจที่เกินพอดี