简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เหตุการณ์ล่มสลายของ FTX เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับนักลงทุนคริปโตทั่วโลก จากแพลตฟอร์มที่เคยได้รับความไว้วางใจสูงสุด สู่การล้มละลายในเวลาไม่กี่วัน ปัญหาเกิดจากความเชื่อมโยงทางการเงินที่ไม่โปร่งใสระหว่าง FTX และ Alameda Research นำไปสู่ความตื่นตระหนกของนักลงทุน การเทขายโทเค็น FTT และการขาดสภาพคล่อง สุดท้าย FTX ต้องยื่นล้มละลาย และ SBF ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง เหตุการณ์นี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสอบพื้นฐานบริษัท การกระจายความเสี่ยง และการเก็บสินทรัพย์ในกระเป๋าส่วนตัว มากกว่าฝากไว้กับแพลตฟอร์มเพียงแห่งเดียว
แอดเหยี่ยวขอถามนักเทรดทุกท่านว่า คุณเคยเชื่อใจแพลตฟอร์มเทรดใดจนถึงขั้นฝากเงินทั้งหมดไว้กับมันหรือไม่? ถ้าใช่ การล่มสลายของ FTX น่าจะเป็นบทเรียนที่ทำให้ต้องคิดใหม่ เพราะกระดานเทรดที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่พึ่งของนักลงทุนทั่วโลก กลับพังทลายลงอย่างไม่เป็นท่าในเวลาเพียงไม่กี่วัน มันเกิดขึ้นได้อย่างไร และเราควรเรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้ วันนี้แอดเหยี่ยวจะพาย้อนรอยไปดูเรื่องราวทั้งหมด
กำเนิดและเส้นทางสู่ความรุ่งโรจน์
ย้อนกลับไปปี 2019 FTX ถือกำเนิดขึ้นโดย SBF และทีมงาน โดยมีจุดเด่นอยู่ที่นวัตกรรมทางการเงิน เครื่องมือเทรดที่หลากหลาย และค่าธรรมเนียมต่ำ ทำให้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแต่เทรดเดอร์รายย่อย แต่ยังรวมถึงสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ที่ไว้วางใจฝากเงินหลายพันล้านดอลลาร์ไว้กับแพลตฟอร์มนี้
SBF กลายเป็นซูเปอร์สตาร์แห่งวงการคริปโต ด้วยภาพลักษณ์นักลงทุนหนุ่มอัจฉริยะผู้ใจกว้าง เขาให้คำมั่นว่าต้องการสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับการเงินดิจิทัล และด้วยพลังทางการตลาดมหาศาล FTX กลายเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดแบรนด์หนึ่ง มีการเป็นสปอนเซอร์ให้กับการแข่งขันกีฬา Formula 1 และ NBA รวมถึงซื้อสิทธิ์ตั้งชื่อสนาม Miami Heat เป็น “FTX Arena”
ขอบคุณรูปจาก BBC
จุดเริ่มต้นของปัญหา
แต่ภายใต้ภาพลักษณ์ที่สวยหรู ความจริงเบื้องหลัง FTX นั้นเปราะบางกว่าที่คิด โดยเฉพาะการเชื่อมโยงทางการเงินระหว่าง FTX กับ Alameda Research กองทุนที่ SBF ก่อตั้งขึ้น ก่อนที่ทุกอย่างจะพังทลาย ข่าวเริ่มรั่วไหลว่า FTX ใช้เงินของลูกค้าผ่าน Alameda โดยไม่มีการเปิดเผย ทำให้เกิดข้อกังขาเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของบริษัท
ในเดือนพฤศจิกายน 2022 สื่อใหญ่หลายเจ้าเปิดโปงว่า Alameda ใช้โทเค็น FTT ของ FTX เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันหนี้จำนวนมหาศาล เมื่อข่าวแพร่ออกไป นักลงทุนเริ่มเทขาย FTT อย่างหนัก ส่งผลให้มูลค่าของ FTX ร่วงลงอย่างรวดเร็ว
ขอบคุณรูปจาก BBC
วิกฤตศรัทธาและจุดจบของอาณาจักร
เมื่อความตื่นตระหนกแพร่กระจาย นักลงทุนแห่ถอนเงินออกจาก FTX จนระบบล่ม และทำให้กระดานเทรดไม่มีสภาพคล่องเพียงพอที่จะรองรับการถอนเงิน สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีกเมื่อ Binance ซึ่งเดิมทีเคยเป็นพันธมิตร ประกาศถอนตัวจากการช่วยเหลือ FTX ส่งผลให้บริษัทไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยื่นขอล้มละลายภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์หลังเกิดวิกฤติ
SBF ถูกจับกุมในเวลาต่อมา และถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงครั้งมโหฬารที่สร้างความเสียหายมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ทำให้นักลงทุนทั่วโลกต้องสูญเสียเงินไปแบบไม่อาจกู้คืนได้
บทเรียนที่นักเทรดต้องจดจำ
การล่มสลายของ FTX เป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับทุกคนในโลกคริปโต มันแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงของการพึ่งพากระดานเทรดเพียงแห่งเดียวโดยไม่ตรวจสอบพื้นฐานทางการเงินของบริษัท รวมถึงความสำคัญของการกระจายความเสี่ยงและการเก็บสินทรัพย์ในกระเป๋าเงินส่วนตัวแทนที่จะฝากไว้กับแพลตฟอร์มที่อาจล่มสลายได้ตลอดเวลา
สรุป
เหตุการณ์ FTX เป็นมากกว่าการล่มสลายของบริษัทคริปโต แต่มันเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความโลภ ความประมาท และการขาดความโปร่งใสที่ทำให้ตลาดคริปโตต้องสั่นสะเทือน แม้ปัจจุบันโลกคริปโตยังคงเดินหน้าต่อไป แต่นี่คือเครื่องเตือนใจว่าไม่มีแพลตฟอร์มใด “ใหญ่เกินกว่าจะล้ม” แอดเหยี่ยวอยากฝากไว้ว่า ในตลาดคริปโต “อย่าเชื่อใจใครง่าย ๆ แม้แต่ราชันแห่งวงการก็อาจกลายเป็นผู้ร้ายในพริบตา” นักเทรดทุกคนต้องหมั่นศึกษาข้อมูล และรู้จักบริหารความเสี่ยงของตนเองอยู่เสมอ
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
“Bitcoin Pizza Day” เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของคริปโตเคอร์เรนซี่ โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2010 เมื่อโปรแกรมเมอร์ชาวฟลอริดาชื่อ Laszlo Hanyecz ใช้ Bitcoin จำนวน 10,000 เหรียญซื้อพิซซ่า 2 ถาด ถือเป็นครั้งแรกที่ Bitcoin ถูกใช้ในการซื้อสินค้าจริงในชีวิตประจำวัน แม้เหรียญเหล่านั้นจะมีมูลค่าเพียง 1,300 บาทในตอนนั้น แต่หากเก็บไว้จนถึงปัจจุบัน มูลค่าจะทะลุ 33,000 ล้านบาท เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยน Bitcoin จากแนวคิดในกลุ่มเล็ก ๆ ให้กลายเป็นสินทรัพย์ระดับโลกที่มีอิทธิพลทางการเงินอย่างมหาศาล.
บทความนี้พาย้อนรอยคดีแชร์ลูกโซ่ในโลกคริปโต ตั้งแต่ BitConnect, OneCoin, PlusToken ไปจนถึงโปรเจกต์ไทยอย่าง HashBX และฟีเวอร์ ICO ในปี 2017–2018 สะท้อนให้เห็นรูปแบบหลอกลวงที่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหน้าตา แต่ยังคงใช้กลยุทธ์เดิมคือ “สัญญาผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น” โดยแฝงเทคโนโลยีทันสมัยมาเพิ่มความน่าเชื่อถือ บทเรียนสำคัญคือ นักลงทุนต้องระวังกับคำพูดที่ดูดีเกินจริง และควรตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยได้ในระยะยาว.
บทความนี้อธิบาย “ทฤษฎีแมลงสาบ” ในโลกคริปโต โดยเปรียบคริปโตเคอเรนซีกับแมลงสาบที่อยู่รอดได้แม้ในสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ด้วยคุณสมบัติอย่างการกระจายศูนย์ ต้านการเซ็นเซอร์ และการปรับตัวอย่างรวดเร็ว บทสรุปคือ คริปโตไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แค่อยู่รอดและพัฒนาได้ก็เพียงพอ.
จากฮีโร่สู่ผู้ต้องหา! “โด ควอน” อดีตผู้ก่อตั้งโปรเจกต์ Terra ที่เคยสร้างเหรียญพันล้านอย่าง LUNA และ UST พังไม่เป็นท่าในปี 2022 จนกลายเป็นวิกฤตโลกคริปโต ถูกมองว่าเป็นต้นเหตุของ “ระบบล้ม” ระดับโลก แถมยังเคยเปิดเหรียญ THT ชนแบงก์ชาติไทยอีกด้วย บทเรียนราคาแพงของความมั่นใจที่เกินพอดี
FBS
Trive
IC Markets Global
STARTRADER
FOREX.com
GTCFX
FBS
Trive
IC Markets Global
STARTRADER
FOREX.com
GTCFX
FBS
Trive
IC Markets Global
STARTRADER
FOREX.com
GTCFX
FBS
Trive
IC Markets Global
STARTRADER
FOREX.com
GTCFX