简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ในปี 2021 นี้เองเราได้เห็นสินทรัพย์การลงทุนมากมายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับวิกฤตเศรษฐกิจจากพิษ Cov
ในปี 2021 นี้เองเราได้เห็นสินทรัพย์การลงทุนมากมายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับวิกฤตเศรษฐกิจจากพิษ Covid-19 ซึ่งแน่นอนว่าสินทรัพย์แรกที่ทุกคนต่างนึกถึงนั้นเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลยนอกจาก “ Bitcoin” ที่ให้ผลตอบแทนเหนือสินทรัพย์การลงทุนดั้งเดิมอย่างทองคำ หุ้น แร่ เงิน อสังหาฯ เป็นต้น แต่นอกเหนือจากเจ้า “ทองคำดิจิทัล” นี้แล้ว ยังมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์อื่น ๆ ที่มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญเช่น หุ้นบริษัท Tesla (NASDAQ:TSLA) และน้ำมันดิบทั้ง WTI และ BRENT ที่ปรับตัวพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในรอบกว่า 3 ปี อันเป็นผลมาจากแรงกดดันในการเปลี่ยนเทรนด์มาใช้พลังงานสะอาดในปัจจุบันโดยผู้รันเทรนด์อย่างบริษัท Tesla สิ่งนี้ย่อมส่งผลต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ที่ใช้น้ำมันเป็นต้นทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในแง่ของการผลิตและการขนส่ง ซึ่งจะทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคเหล่านี้ปรับตัวสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิตและอาจนำไปสู่ “สภาวะเงินเฟ้อ” ในที่สุด อย่างไรก็ตามสินทรัพย์ที่คาดว่าจะมีแนวโน้มในเชิงบวกกับสภาวะเงินเฟ้ออย่าง Bitcoin ก็ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับตัวเก็บมูลค่าที่อาจกล่าวได้ว่ามีความปลอดภัยกว่าการถือธนบัตรรัฐบาลหรือดอลลาร์ โดยบริษัท Tesla เองก็อาจจะได้ประโยชน์จากกระแสความนิยมในการเปลี่ยนผ่านมาใช้พลังงานสะอาดจึงทำให้มูลค่าหุ้นปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มในการลงทุนใน Bitcoin เพิ่มขึ้นจากการที่เหมืองขุดทยอยเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดในการขุดอีกด้วย น้ำมันดิบดีดสูงสุดในรอบ 3 ปี ดันเงินเฟ้อพุ่งตลาดคริปโตเตรียมอ้าแขน จากผลการประชุมล่าสุดของกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) เมื่อวานนี้ที่ได้มีการสรุปให้ “คงกำลังเพิ่มการผลิตน้ำมันเท่าเดิม” ที่ 400,000 บาร์เรล/วัน ส่งผลให้น้ำมันดิบในตลาดหลักของโลกอย่าง WTI และ BRENT ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอุปสงค์จำนวนมากในตลาดที่ไม่สอดคล้องกับอุปทานที่มีอย่างจำกัด ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในวันนี้จ่อทะลุจุดสูงสุดเดิมในรอบ 3 ปีเข้าไปแล้ว อ้างอิงราคาน้ำมันดิบ WTI จาก TradingView อ้างอิงราคาน้ำมันดิบ BRENT จาก TradingView จะเห็นได้ว่าในปลายปี 2018 เป็นจุดพีคของน้ำมันดิบทั้ง WTI และ BRENT โดยตลาดทั้งสองได้ขึ้นมาแตะจุดสูงสุดบริเวณ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล และในขณะนี้มีแนวโน้มที่จะทลายกำแพงแนวต้านดังกล่าวได้อย่างไม่ยากเย็น ซึ่งหากราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นแน่นอนว่าสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันเราที่มีน้ำมันเป็นตุ้นทุนในการผลิต การเกษตร และการขนส่งก็จะยิ่งสูงขึ้นตาม ทำให้มีการคาดการณ์ว่าระดับ “เงินเฟ้อ” จะรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีกประกอบกับเม็ดเงินจากการอัดฉีดของรัฐบาลเพื่อพยุงเศรษฐกิจในการต่อสู้กับโรคระบาด Covid-19 ยิ่งตอกย้ำได้ว่าสภาวะเงินเฟ้อนั้นใกล้เข้ามาทุกที สิ่งนี้ทำให้หลายคนเชื่อว่า Bitcoin จะเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญที่จะแก้ไขปัญหาทางการเงินระดับโลกได้ อีกทั้งตลาดคริปโตเคอร์เรนซียังเป็นที่รองรับเม็ดเงินมหาศาลจากการพิมพ์ธนบัตรเพิ่มขึ้นจากรัฐบาล จะเห็นได้จากการอัดฉีดเม็ดเงินของสหรัฐฯ ในช่วงวิกฤตโรคระบาดเมื่อปีที่ผ่านมา
กดอ่านข่าว ตลาด Crypto และ Bitcoin จะได้รับอานิสงส์จากการพุ่งขึ้นของน้ำมันโลกในครั้งนี้หรือไม่? ต่อที่ Siam Blockchain
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
Exness
ATFX
Doo Prime
XM
GTCFX
VT Markets
Exness
ATFX
Doo Prime
XM
GTCFX
VT Markets
Exness
ATFX
Doo Prime
XM
GTCFX
VT Markets
Exness
ATFX
Doo Prime
XM
GTCFX
VT Markets