简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ราคา Bitcoin พุ่งทะลุ 59,000 ดอลลาร์อย่างรุนแรงอีกครั้ง หลัง Fed ประกาศอัตราดอกเบี้ย 0 เหมือนเดิม
ราคาของ Bitcoin นั้นดูเหมือนว่าจะมีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงเช้ามืดของวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ Federal Reserve นั้นได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาจะไม่เพิ่มอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปลายปี 2023 ทองคำปรับตัวขึ้น เช้าวันพฤหัสบดีในเอเชีย โดยแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐยังคงมีท่าทีนิ่งเฉยในขณะที่ส่งมอบ การตัดสินใจด้านนโยบาย ในวันพุธ
ซึ่งถือเป็นการคงนโยบายการเงินดังกล่าวไว้ในระยะยาว ภายหลังจากการประกาศดังกล่าวไม่นาน ราคาของ Bitcoin ก็พุ่งไปแตะระดับ 59,100 ดอลลาร์อย่างรุนแรงตอนช่วงเวลาราว ๆ ตี 5 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นหลังจากที่ร่วงลงไปอยู่ที่ระดับ 54,000 ดอลลาร์เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ก่อนหน้านี้ราคาของ Bitcoin นั้นเคยพุ่งไปทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ในราคาที่ 61,699 ดอลลาร์
ก่อนที่จะมีการปรับตัวลงมาเล็กน้อยตามที่ได้รายงานไว้ด้านบน รายงานล่าสุดจาก U.today เผยว่าทาง Fed นั้นจะยังคงอัตราการซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนไปเรื่อย ๆ แม้ว่าปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อนั้นจะอยู่ที่ 2% แต่หลาย ๆ คนก็คาดการณ์ว่ามันอาจจะพุ่งไปแตะ 2.2% ได้ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไป
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวของ แบร์รี ซิลเบิร์ต (Barry Silbert) หนึ่งในผู้บุกเบิกและทรงอิทธิพลที่สุดในอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี ผู้มองเห็นศักยภาพของบิตคอยน์ตั้งแต่ปี 2012 และต่อมาได้ก่อตั้ง Digital Currency Group (DCG) ในปี 2015 เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของระบบการเงินโลกด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน DCG กลายเป็นผู้เล่นหลักที่มีบทบาททั้งด้านการลงทุนและโครงสร้างพื้นฐานของคริปโต โดยมีพอร์ตลงทุนในบริษัทชั้นนำกว่า 200 แห่ง และเป็นเจ้าของ Grayscale Investments, CoinDesk และ Genesis ซึ่งล้วนมีอิทธิพลต่อการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในภาคการเงินแบบดั้งเดิม บทความชี้ให้เห็นถึงกลยุทธ์ วิสัยทัศน์ และความสำเร็จของ Silbert ในการนำคริปโตเข้าสู่ระบบการเงินโลก โดยเริ่มจากเงินทุนเพียง 25 ล้านดอลลาร์ และเติบโตเป็นผู้บริหารสินทรัพย์มูลค่ากว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ภายในไม่ถึงทศวรรษ
Meme Coins คือเหรียญดิจิทัลที่เริ่มจากเรื่องตลกในอินเทอร์เน็ต แต่กลับสร้างความเปลี่ยนแปลงเขย่าวงการการเงินโลกได้จริง ด้วยพลังของกระแส โซเชียลมีเดีย และความหวังของนักเก็งกำไรรายย่อย แม้บางคนจะกลายเป็นเศรษฐี แต่ก็มีอีกมากที่ขาดทุนยับแบบไม่ทันตั้งตัว เหรียญมีมจึงเป็นทั้งโอกาสและกับดัก ที่นักลงทุนต้องรู้ทันก่อนจะโดดเข้าไปในเกมสุดผันผวนนี้ อยากให้แปลงเนื้อหานี้เป็นโพสต์แบบให้ความรู้แบบกระชับ หรือแนววิดีโอสคริปต์สำหรับคอนเทนต์ TikTok/YouTube Shorts ดี?
ไนซ์ CNX เปิดใจ สูญเงิน 5 ล้านจากคริปโต เพราะ "โลภ" และ "ไม่ยอมตัดขาดทุน" เขาเคยหลงระเริงกับความสำเร็จรวดเร็ว จนพังหมดตัวในพริบตา วันนี้ไนซ์เตือนคนรุ่นใหม่ "อย่ารีบรวย" และ "อย่าโกงตัวเองด้วยความโลภ" การลงทุนต้องมีสติ ศึกษาลึก และรับผิดชอบการตัดสินใจด้วยตัวเอง
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยกเลิกข้อกำหนดให้ธนาคารต้องแจ้งล่วงหน้าเมื่อต้องการทำธุรกิจเกี่ยวกับคริปโต สะท้อนท่าทีที่ “เปิดกว้าง” มากขึ้นต่อสินทรัพย์ดิจิทัล แม้ยังมีกฎเข้มจากปี 2023 ที่ใช้ควบคุมอยู่เบื้องหลัง นักวิเคราะห์มองว่านี่อาจเป็นสัญญาณของการปรับตัวเพื่อรองรับโลกการเงินยุคใหม่ แต่ก็ยังไม่ใช่ “ไฟเขียวเต็มรูปแบบ” แก่วงการคริปโต.
HFM
IC Markets Global
ATFX
OANDA
GO MARKETS
Trive
HFM
IC Markets Global
ATFX
OANDA
GO MARKETS
Trive
HFM
IC Markets Global
ATFX
OANDA
GO MARKETS
Trive
HFM
IC Markets Global
ATFX
OANDA
GO MARKETS
Trive