简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ในยุคที่เศรษฐกิจไม่แน่นอนและเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว Gen Z กลับกลายเป็นกลุ่มที่เริ่มวางแผนการเงินและเกษียณอย่างจริงจังตั้งแต่อายุยังน้อย ต่างจากคนรุ่นก่อนที่เริ่มวิตกเมื่อใกล้เกษียณ บทความนี้สรุป 4 บทเรียนสำคัญจาก Gen Z เช่น การเปิดใจคุยเรื่องเงิน การใช้เทคโนโลยีทางการเงิน การสร้างรายได้หลากหลายช่องทาง และการไม่พึ่งพารัฐ ซึ่งอาจเป็นแนวทางใหม่ให้คนรุ่นเก่าได้ทบทวนและเริ่มต้นวางแผนอนาคตอย่างมั่นคงกว่าเดิม
ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกไปทุกวินาที และเศรษฐกิจผันผวนจนแทบตั้งหลักไม่ทัน กลุ่มที่ถูกพูดถึงมากที่สุดเรื่อง “ความพร้อมทางการเงิน” กลับไม่ใช่ผู้ใหญ่ใกล้เกษียณ แต่เป็น “Gen Z” — คนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างตัว แต่กลับมีแนวคิดวางแผนอนาคตที่น่าจับตา
จากรายงานล่าสุดของ Guardian ในปี 2024 ชี้ชัดว่า คนอเมริกันเริ่มวิตกเรื่องเกษียณมากขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่น Gen X ที่เริ่มรู้สึกว่า “ยังไม่พร้อม” ขณะที่ Gen Z ซึ่งแม้ยังอีกไกลกว่าจะเกษียณ แต่กลับเริ่มต้นวางแผนเร็วกว่าอย่างมีระบบ
อะไรคือสิ่งที่คนรุ่นใหม่ทำ แล้วคนรุ่นก่อนยังไม่ทำ?
นี่คือ 4 บทเรียนจากคนรุ่น Gen Z ที่คนวัยใกล้เกษียณอาจต้องกลับมาคิดทบทวน…
1.เปิดใจคุยเรื่องเงิน = จุดเริ่มต้นของแผนที่ดี
ในยุคพ่อแม่ การพูดเรื่องเงินถือเป็นเรื่องต้องห้าม หรืออย่างน้อยก็ “ไม่สุภาพ” แต่ Gen Z กลับมองว่า การเปิดอกคุยเรื่องการเงินกับเพื่อน คนในครอบครัว หรือบนโลกโซเชียล เป็นก้าวแรกของการมีสุขภาพการเงินที่ดี
Erika Kullberg ทนายความและผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินส่วนบุคคล ระบุว่า
“Gen Z เลิกอายที่จะพูดเรื่องรายได้ หนี้ หรือเป้าหมายทางการเงิน พวกเขาแชร์เพื่อเรียนรู้ ไม่ใช่โอ้อวด”
บทเรียนนี้สำคัญกับคนวัยใกล้เกษียณ เพราะการเงียบไม่ใช่ความปลอดภัย การพูดคุยคือการเปิดประตูสู่คำแนะนำที่อาจเปลี่ยนแผนชีวิตได้ทั้งแผน
2.ใช้เทคโนโลยีให้คุ้มค่า (อย่ากลัวจะเรียนรู้)
Gen Z เติบโตมากับแอปวางแผนการเงิน บอทให้คำปรึกษา และเครื่องมือออนไลน์สารพัดแบบที่ช่วยให้ “ควบคุม” เงินของตัวเองได้แบบเรียลไทม์
หลายคนวางแผนเกษียณด้วยแอปมือถือ ไม่ต้องง้อแฟ้มเอกสารหนา ๆ หรือที่ปรึกษาค่าตัวแพงเหมือนยุคก่อนอีกต่อไป
“คนรุ่นก่อนอาจมองว่าโลกดิจิทัลยุ่งยาก แต่สำหรับ Gen Z มันคืออาวุธลับที่ช่วยให้ออมเงินได้มากขึ้น ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง”
ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ การเริ่มเรียนรู้เครื่องมือทางการเงินใหม่ ๆ วันนี้ ก็ยังไม่สาย
3.รายได้ทางเดียวไม่พออีกต่อไป
Gen Z ไม่ฝากความหวังไว้กับ “งานประจำ” งานเดียว พวกเขาหาเงินจากหลายช่องทาง—ฟรีแลนซ์ ขายของออนไลน์ ทำคอนเทนต์ หรือแม้แต่ลงทุนแบบพาสซีฟ
Brandy Burch ซีอีโอของ Benefitbay กล่าวว่า
“พวกเขาไม่เชื่อว่าความมั่นคงจะมาจากการทำงานที่เดิมไปตลอดชีวิต แต่สร้างความมั่นคงจากรายได้ที่หลากหลาย”
บทเรียนสำคัญคือ หากคุณใกล้เกษียณแล้วยังมีรายได้จากแหล่งเดียว อาจถึงเวลาต้องคิดใหม่ ปรับใหม่ เพื่อให้แผนเกษียณมีเสถียรภาพมากขึ้น
4.ไม่ฝากอนาคตไว้กับประกันสังคม
Gen Z เติบโตมากับข่าวลือว่า “เงินประกันสังคมอาจไม่พอ” หรืออาจหายไปในอนาคต พวกเขาจึงไม่รอความหวังจากรัฐ แต่เลือกเดินหน้าด้วยแผนของตัวเอง
“พวกเขาออมตั้งแต่เนิ่น ๆ ใช้เครื่องมือการลงทุน และเตรียมรับมือทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นหลังเกษียณ”
ในขณะที่หลายคนยังฝากชีวิตหลังเกษียณไว้กับเงินบำนาญหรือประกันสังคม Gen Z กลับเลือกสร้าง ระบบป้องกัน ของตัวเองไว้ล่วงหน้า
สรุป วัยไม่ใช่ข้ออ้าง ความรู้คือเกราะที่ดีที่สุด
ความแตกต่างระหว่าง Gen Z กับคนใกล้เกษียณ ไม่ใช่เพียงแค่ “อายุ” แต่คือ “วิธีคิด” และ “การลงมือทำ”
การเกษียณอย่างสุขสบายในยุคนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเรามีเวลามากแค่ไหน แต่อยู่ที่ว่าเรา เริ่มต้น แล้วหรือยัง
ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ การเรียนรู้จากคนรุ่นใหม่ที่เริ่มต้นเร็ว ใช้เครื่องมือเป็น และกล้าคุยเรื่องการเงินแบบตรงไปตรงมา อาจเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยปลดล็อกชีวิตหลังเกษียณให้มั่นคงและมีอิสระทางการเงินมากกว่าที่เคยคิด
ขอบคุณข้อมูลจาก finance.yahoo
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้นำเสนอคำศัพท์เชิงเปรียบเทียบในโลกการลงทุนที่ใช้ “สัตว์” เป็นสัญลักษณ์ในการอธิบายพฤติกรรมของตลาดและนักลงทุน เช่น Bull (กระทิง) และ Bear (หมี) ที่เป็นตัวแทนของตลาดขาขึ้นและขาลง รวมถึงสัตว์อื่น ๆ อย่าง กระต่าย ฉลาม หมาป่า เต่า วาฬ ช้าง ที่สะท้อนลักษณะของนักลงทุนตั้งแต่สายเก็งกำไรระยะสั้นจนถึงรายใหญ่ระดับสถาบัน ขณะเดียวกัน ยังมีคำจำพวก Black Swan, เหยี่ยว, พิราบ, แกะ, นกกระจอกเทศ และยูนิคอร์น ที่ใช้สื่อถึงภาวะตลาด นโยบายเศรษฐกิจ หรือคุณลักษณะพิเศษของบริษัทสตาร์ตอัป บทความชี้ให้เห็นว่า แม้คำเหล่านี้จะดูสนุกหรือน่าขบขัน แต่ก็ช่วยให้เข้าใจตลาดได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทั้งในมุมมองเชิงพฤติกรรมและจิตวิทยาการลงทุน
บทความนี้เตือนนักเทรดมือใหม่เกี่ยวกับ "บัญชีเดโม่" ที่แม้จะช่วยฝึกทักษะการเทรดโดยไม่เสี่ยงเงินจริง แต่กลับไม่สามารถจำลองอารมณ์และความกดดันในสนามจริงได้ การขาดความเข้าใจในเครื่องมือ ความแตกต่างทางอารมณ์เมื่อใช้เงินจริง และการไม่เห็นค่าของเงิน จึงเป็นกับดักที่อาจทำให้พอร์ตพังได้ง่าย สรุปคือ เดโม่สอนเทคนิค แต่สนามจริงเท่านั้นที่สอน “ใจ” ให้แกร่งพอจะอยู่รอดในตลาด.
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าไม่เสื่อมสลายและสามารถช่วยรักษาความมั่งคั่งในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจหรือการเงินที่ผันผวน มันมีคุณสมบัติเป็น "สินทรัพย์ปลอดภัย" และให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว การลงทุนในทองคำสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการซื้อทองคำแท่ง กองทุนรวมทองคำ หรือผ่าน Gold ETFs และ Gold Futures นักลงทุนควรเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับเป้าหมายและระยะเวลาการลงทุน เพื่อเพิ่มความมั่นคงและกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน.
ฟูจิโมโตะ นักลงทุนชาวญี่ปุ่นวัยเกษียณ สร้างพอร์ตมูลค่ากว่า 450 ล้านบาทด้วย “วินัย” ไม่ใช่ทางลัด เขาเทรดจากข้อมูลจริง จดมือทุกดีล และยังเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่แม้จะอายุมากแล้ว ผ่านทั้งฟองสบู่ เศรษฐกิจถดถอย และแผ่นดินไหว แต่ไม่เคยยอมแพ้ ชีวิตเขาคือบทเรียนสำคัญว่า “ความมั่งคั่งไม่ได้มาจากโชค แต่มาจากวินัยและใจที่ไม่หยุดเรียนรู้”