简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:แม้ว่า Bitcoin จะถูกออกแบบให้เป็น "เงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบ Peer-to-Peer" แต่ปัจจุบันกลับถูกใช้เป็นสินทรัพย์เก็บมูลค่ามากกว่าการใช้จ่ายจริง อุปสรรคหลักที่ขัดขวางการใช้งานในชีวิตประจำวัน ได้แก่ ความซับซ้อนของเทคโนโลยี ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม ความล่าช้า และความผันผวนของราคา อย่างไรก็ตาม Lightning Network ได้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ทำให้การทำธุรกรรมรวดเร็วขึ้นและต้นทุนต่ำลง ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มรองรับ Bitcoin มากขึ้น เช่น การชำระเงินผ่าน POS การโอนเงินแบบ Lightning Address และการใช้ The Bolt Card Bitcoin กำลังพัฒนาไปสู่การเป็นระบบการเงินที่ใช้งานได้จริง ซึ่งอาจทำให้กลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่แพร่หลายทั่วโลกในอนาคต
เคยสงสัยไหมว่าทำไม Bitcoin ซึ่งถูกยกให้เป็นอนาคตของระบบการเงินโลก กลับยังไม่ถูกนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอย่างแพร่หลาย? ทั้งที่มันถูกออกแบบมาให้เป็น “เงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบ Peer-to-Peer” แท้ ๆ แต่ทำไมหลายคนยังเลือกที่จะถือครองมากกว่าการนำไปใช้?
วันนี้แอดเหยี่ยวจะพานักเทรดมาวิเคราะห์กันว่า อะไรคืออุปสรรคที่ขวางทาง Bitcoin ในการเป็นสกุลเงินที่ใช้งานจริง และมันกำลังเดินหน้าไปสู่อนาคตที่สดใสได้อย่างไร!
อุปสรรคของการใช้งาน Bitcoin
หนึ่งในปัญหาหลักคือผู้คนยังไม่คุ้นเคยกับ Bitcoin และมองไม่เห็นวิธีการใช้งานในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ อดีตที่ผ่านมา Bitcoin เคยมีปัญหาเรื่องความซับซ้อนของเทคโนโลยี ทำให้การนำไปใช้งานจริงเป็นเรื่องยาก
Bitcoin ถูกออกแบบมาให้เป็น “ระบบเงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบ Peer-to-Peer” ตามที่ระบุไว้ในเอกสารไวท์เปเปอร์ของ Satoshi Nakamoto อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Bitcoin กลับถูกมองว่าเป็น Store of Value หรือสินทรัพย์เก็บมูลค่า ทำให้ผู้คนไม่ค่อยนำมาใช้จ่าย แต่เลือกถือไว้เพื่อหวังมูลค่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต
ออม vs ใช้จ่าย
แนวคิด “Stacking Sats” หรือการสะสม Bitcoin เป็นที่นิยมในหมู่ Bitcoiners ซึ่งต้องการสะสม Bitcoin เพื่อหวังผลกำไรในอนาคต แต่ความจริงคือเราไม่สามารถถือ Bitcoin ได้ตลอดไปโดยไม่ใช้จ่าย ทุกคนต้องใช้เงินในชีวิตประจำวัน เช่น จ่ายบิล ซื้อของ หรือพักผ่อน
ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการใช้ Bitcoin
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Bitcoin บนแพลตฟอร์มเทรดต่าง ๆ กำลังลดลง โดยบริษัทเช่น Strike และ Swan ในสหรัฐฯ กำลังพัฒนาบริการที่ลดค่าธรรมเนียมลงเหลือน้อยที่สุด นอกจากนี้ ยังมีบริการที่ให้คุณรับ Bitcoin โดยไม่มีค่าธรรมเนียมเลย เช่น Cash App ที่เปิดให้แปลงเงินเดือนเป็น Bitcoin ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ความเร็วและต้นทุนในการทำธุรกรรม
ธุรกรรม Bitcoin แบบ On-chain มักถูกมองว่าช้าและมีค่าใช้จ่ายสูง เนื่องจากบล็อกของ Bitcoin ถูกสร้างขึ้นทุก ๆ 10 นาที และเมื่อมีธุรกรรมหนาแน่น ค่าธรรมเนียมก็สูงขึ้น
แต่ Lightning Network ซึ่งเป็น Layer-2 Solution ได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ Lightning Network ทำให้การทำธุรกรรม Bitcoin รวดเร็วแทบจะทันทีและมีค่าธรรมเนียมต่ำมาก ซึ่งเร็วกว่าระบบบัตรเครดิตแบบเดิม เช่น Visa และ Mastercard หลายเท่า
ความผันผวนของราคา Bitcoin
ความผันผวนของ Bitcoin เป็นสิ่งที่หลายคนกังวล อย่างไรก็ตาม การใช้ Lightning Network สามารถลดผลกระทบจากความผันผวนได้ โดยช่วยให้แลกเปลี่ยน Bitcoin เป็นสกุลเงิน Fiat ได้แทบจะในทันที
การนำ Bitcoin ไปใช้จริง
สรุป
Bitcoin กำลังพัฒนาไปสู่การเป็นระบบการเงินที่ใช้งานได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Lightning Network ได้รับการยอมรับมากขึ้น การทำธุรกรรม Bitcoin จะง่ายขึ้นและมีต้นทุนต่ำลง ทำให้ Bitcoin กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
อนาคตของ Bitcoin อาจเป็นมากกว่าเพียงสินทรัพย์เก็บมูลค่า แต่เป็นระบบการเงินที่สามารถใช้งานได้ทั่วโลก ลองจินตนาการถึงโลกที่เราสามารถเดินทางได้ทุกที่และจ่ายเงินด้วย Bitcoin โดยไม่ต้องแลกเปลี่ยนสกุลเงิน นี่อาจเป็นก้าวสำคัญของ Bitcoin ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต
ขอบคุณ siamblockchain
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
“Bitcoin Pizza Day” เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของคริปโตเคอร์เรนซี่ โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2010 เมื่อโปรแกรมเมอร์ชาวฟลอริดาชื่อ Laszlo Hanyecz ใช้ Bitcoin จำนวน 10,000 เหรียญซื้อพิซซ่า 2 ถาด ถือเป็นครั้งแรกที่ Bitcoin ถูกใช้ในการซื้อสินค้าจริงในชีวิตประจำวัน แม้เหรียญเหล่านั้นจะมีมูลค่าเพียง 1,300 บาทในตอนนั้น แต่หากเก็บไว้จนถึงปัจจุบัน มูลค่าจะทะลุ 33,000 ล้านบาท เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยน Bitcoin จากแนวคิดในกลุ่มเล็ก ๆ ให้กลายเป็นสินทรัพย์ระดับโลกที่มีอิทธิพลทางการเงินอย่างมหาศาล.
บทความนี้พาย้อนรอยคดีแชร์ลูกโซ่ในโลกคริปโต ตั้งแต่ BitConnect, OneCoin, PlusToken ไปจนถึงโปรเจกต์ไทยอย่าง HashBX และฟีเวอร์ ICO ในปี 2017–2018 สะท้อนให้เห็นรูปแบบหลอกลวงที่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหน้าตา แต่ยังคงใช้กลยุทธ์เดิมคือ “สัญญาผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น” โดยแฝงเทคโนโลยีทันสมัยมาเพิ่มความน่าเชื่อถือ บทเรียนสำคัญคือ นักลงทุนต้องระวังกับคำพูดที่ดูดีเกินจริง และควรตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยได้ในระยะยาว.
บทความนี้อธิบาย “ทฤษฎีแมลงสาบ” ในโลกคริปโต โดยเปรียบคริปโตเคอเรนซีกับแมลงสาบที่อยู่รอดได้แม้ในสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ด้วยคุณสมบัติอย่างการกระจายศูนย์ ต้านการเซ็นเซอร์ และการปรับตัวอย่างรวดเร็ว บทสรุปคือ คริปโตไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แค่อยู่รอดและพัฒนาได้ก็เพียงพอ.
จากฮีโร่สู่ผู้ต้องหา! “โด ควอน” อดีตผู้ก่อตั้งโปรเจกต์ Terra ที่เคยสร้างเหรียญพันล้านอย่าง LUNA และ UST พังไม่เป็นท่าในปี 2022 จนกลายเป็นวิกฤตโลกคริปโต ถูกมองว่าเป็นต้นเหตุของ “ระบบล้ม” ระดับโลก แถมยังเคยเปิดเหรียญ THT ชนแบงก์ชาติไทยอีกด้วย บทเรียนราคาแพงของความมั่นใจที่เกินพอดี
FOREX.com
STARTRADER
GO Markets
ATFX
XM
Saxo
FOREX.com
STARTRADER
GO Markets
ATFX
XM
Saxo
FOREX.com
STARTRADER
GO Markets
ATFX
XM
Saxo
FOREX.com
STARTRADER
GO Markets
ATFX
XM
Saxo