简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:กับดักหมี หรือ Bear Trap หมายถึงช่วงเวลาที่ตราสารบางตัวทะลุผ่านระดับแนวรับหลักแล้วกลับตัว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์สามารถเกิดขึ้นได้ในตลาดเมื่อสินทรัพย์อยู่ต่ํากว่าแนวรับเป็นระยะเวลาหนึ่ง ล่อให้ผู้ขายระยะสั้นเข้าสู่กับดักหมี
นักเทรดอาจจะเคยได้ยินคำว่า ตลาดหมี ที่หมายถึงช่วงเวลาที่อุปทานสูงกว่าอุปสงค์ ความเชื่อมั่นต่ำ และราคาตกต่ำลง แต่วันนี้แอดเหยี่ยวจะพามาทำความรู้จักกับคำว่า “กับดักหมี (Bear Trap)” ที่ฟังแค่ชื่อก็ทำให้สงสัยว่าเกี่ยวข้องอย่างไรกับการเทรด และพอมีคำว่า “กับดัก” ทำให้รู้ในทันทีเลยว่าต้องหลีกเลี่ยงแน่นอน ในบทความนี้แอดเหยี่ยวรวมมาให้แล้วในการเทรด Forex กับดักหมี (Bear Trap) คืออะไร? และหลีกเลี่ยงได้อย่างไร ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลยครับ
กับดักหมี (Bear Trap) คืออะไร?
กับดักหมี หรือ Bear Trap หมายถึงช่วงเวลาที่ตราสารบางตัวทะลุผ่านระดับแนวรับหลักแล้วกลับตัว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์สามารถเกิดขึ้นได้ในตลาดเมื่อสินทรัพย์อยู่ต่ํากว่าแนวรับเป็นระยะเวลาหนึ่ง ล่อให้ผู้ขายระยะสั้นเข้าสู่กับดักหมีและสร้างการกลับตัวของการเคลื่อนไหว
เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เพราะนักเทรดขาขึ้นกําลังครอบงําความสมดุลของแรง หมายความว่า สถานการณ์เกิดขึ้นในตลาดเมื่อมีคนที่ต้องการซื้อมากกว่าผู้ที่ต้องการขาย สิ่งนี้นําไปสู่การกําหนดราคาสูงเกินไปโดยผู้ซื้อที่ต้องการดึงดูดผู้ขายมากขึ้นในฐานะผู้เข้าร่วมตลาด
ตัวอย่าง
ให้เราดูกราฟ EURUSD รายวัน ก่อนแนวโน้มขาขึ้น breakout ที่ผิดพลาดสามครั้งของระดับแนวรับเกิดขึ้น ทําให้นักเทรดมือใหม่เข้าสู่กับดักหมี ภาพแสดงให้เห็นว่าสินทรัพย์รวมตัวเป็นเวลานานและต่อมาได้ก่อให้เกิดความแตกต่างแบบกระทิงในอินดิเคเตอร์ทางเทคนิค RSI ซึ่งเป็นสัญญาณแรกสําหรับแนวโน้มขาขึ้นในตราสาร
ขอบคุณรูปจาก LiteFinance
จะเห็นว่าตลาดกระทิงพยายามผลักดันนักลงทุนขาลงให้ติดกับดักโดยการเข้าสู่ตําแหน่งขาย การเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกนําหน้าด้วยการก่อตัวของความแตกต่างที่เป็นขาขึ้นบนอินดิเคเตอร์ MACD และสัญญาณซื้อที่ยืนยันคือรูปแบบแท่งเทียนที่ถือเข็มขัดกระทิงและการฟื้นตัวของสินทรัพย์เหนือระดับแนวรับ
ขอบคุณรูปจาก LiteFinance
หลีกเลี่ยง Bear Trap ได้อย่างไร?
Bear Trap เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่ระบุได้ยากสำหรับนักเทรดมือใหม่ ในกรณีส่วนใหญ่ การระบุ Bear Trap ต้องใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอย่าง RSI, Fibonacci และปริมาณการซื้อขายเข้ามาช่วย เพราะนักเทรดต้องวิเคราะห์แนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้นให้ชัดเจนว่านั่นเป็นการเพิ่มขึ้นหรือลดลงที่มีโมเมนตัมที่แข็งแรงหรือเป็นเพียงการลดลงชั่วขณะที่ทำให้เกิด Bear Trap เท่านั้น
สัญญาณที่บ่งบอกว่า Bear Trap นั้นกำลังก่อตัว โดยทั่วไป การรวมกันของปัจจัยต่างๆ เช่น การกลับตัวของราคาที่ระดับแนวรับหลัก,ความล้มเหลวในการปิดต่ำกว่าระดับ Fibonacci และปริมาณการซื้อขายที่ต่ำ
สำหรับนักเทรกระยะยาว ควรที่จะหลีกเลี่ยงการซื้อขายระหว่างที่ราคาของสินทรัพย์นั้นเกิดความผันผวน เว้นแต่ว่า การเคลื่อนไหวของราคาและปริมาณการซื้อขายในครั้งนั้นจะแข็งแรงและมีโมเมนตัมมากพอที่จะยืนยันการกลับตัวของแนวโน้มขาขึ้นหรือลงได้อย่างชัดเจน ดังนั้น ควรคงไว้ในช่วงเวลาดังกล่าวและหลีกเลี่ยงการขายในช่วงที่เกิดความผันผวน
ในทางกลับกัน หากคุณต้องการทำกำไรจากการกลับตัวของรูปแบบ Bear Trap คุณควรเลือกที่จะทำการเปิด Long มากกว่าการเปิด Short เนื่องจากการเปิด Short ในขณะที่ราคาสินทรัพย์นั้นอยู่ในรูปแบบ Bear Trap ซึ่งเป็นแนวโน้มที่มีความ Bullish นั้นอาจจะทำให้สูญเสียเงินทุนจำนวนมากก็เป็นได้
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก LiteFinance และ THAIFRX
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
XM
Markets.com
FOREX.com
EC Markets
Neex
FBS
XM
Markets.com
FOREX.com
EC Markets
Neex
FBS
XM
Markets.com
FOREX.com
EC Markets
Neex
FBS
XM
Markets.com
FOREX.com
EC Markets
Neex
FBS