简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจสัปดาห์นี้
วันจันทร์ที่ 2 ต.ค. 2023
•21.00 น. : ดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐฯ (ISM Manufacturing PMI)
ตัวเลขครั้งก่อน 47.6 ตัวเลขคาดการณ์ 47.8
•22.00 น. :Fed Chair Powell Speaks
วันอังคารที่ 3 ต.ค. 2023
•21.00 น. : ตำแหน่งว่างงานเปิดใหม่หรัฐฯ (JOLTS Job Openings)
ตัวเลขครั้งก่อน 8.83M ตัวเลขคาดการณ์ 8.85M
วันพุธที่ 4 ต.ค. 2023
•19.15 น. :ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรหรัฐฯโดย ADP (ADP Non-Farm Employment Change)
ตัวเลขครั้งก่อน 177K ตัวเลขคาดการณ์ 155K
•21.00 น. :ดัชนี PMI ภาคการบริการสหรัฐฯ (ISM Services PMI)
ตัวเลขครั้งก่อน 54.5 ตัวเลขคาดการณ์ 53.5
วันพฤหัสบดีที่ 5 ต.ค. 2023
•19.30 น. :ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ (Unemployment Claims)
ตัวเลขครั้งก่อน 3.8% ตัวเลขคาดการณ์ 3.7%
วันศุกร์ที่ 6 ต.ค. 2023
•19.30 น. : ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ (Non-Farm Employment Change)
ตัวเลขครั้งก่อน 187K ตัวเลขคาดการณ์ 168K
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ตามความต้องการถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและความกังวลแนวโน้มเฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นาน
เงินดอลลาร์มีโอกาสชะลอการแข็งค่าหรือพลิกกลับมาอ่อนค่าลงได้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะฝั่งการจ้างงานไม่ได้ออกมาดีกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้มการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นานของเฟด ทั้งนี้ หากตลาดการเงินยังอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยงก็อาจช่วยหนุนเงินดอลลาร์ได้ ในส่วนของค่าเงินบาท โมเมนตัมการอ่อนค่าเริ่มแผ่วลงบ้าง และการอ่อนค่าอาจยังถูกจำกัดแถวโซนแนวต้านล่าสุดแถว 36.85 บาทต่อดอลลาร์ ทว่า ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติอาจยังมีความผันผวน (แต่มองว่าแรงขายอาจลดลง) นอกจากนี้ ควรระวังและจับตาทิศทางราคาน้ำมันดิบ รวมถึงราคาทองคำ โดยการปรับฐานต่อเนื่องของราคาทองคำ อาจหนุนให้ผู้เล่นในตลาดทยอยเข้าซื้อทองคำ ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลง
1. ฝั่งสหรัฐฯ – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในเดือนกันยายน อาทิ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและภาคการบริการ (ISM Manufacturing & Services PMIs) รวมถึงรายงานข้อมูลตลาดแรงงาน โดยเฉพาะยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls:NFP) โดยในส่วนของดัชนี ISM ภาคการผลิต ตลาดประเมินว่า ภาคการผลิตของสหรัฐฯ อาจฟื้นตัวดีขึ้น แต่โดยรวมยังคงอยู่ในภาวะหดตัวต่อเนื่อง สะท้อนผ่านดัชนี ISM PMI ภาคการผลิต ที่ระดับ 47.7 จุด (ดัชนีต่ำกว่า 50 จุด หมายถึง ภาวะหดตัว) ส่วนภาคการบริการ แม้ว่าจะยังคงขยายตัวได้ แต่จะเป็นการขยายตัวในอัตราชะลอลงชัดเจน หลังการใช้จ่ายครัวเรือนอาจเผชิญแรงกดดันจากการชะลอตัวลงต่อเนื่องของการจ้างงาน รวมถึงผลกระทบจากภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นและค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูง สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลง แย่กว่าคาด ทำให้โดยรวมดัชนี ISM PMI ภาคการบริการอาจลดลงสู่ระดับ 53.5 จุด ส่วนในฝั่งตลาดแรงงาน นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่า การจ้างงานมีแนวโน้มชะลอตัวลงมากขึ้น โดย NFP เดือนกันยายน อาจเพิ่มขึ้นราว 1.6 แสนราย ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้นเกือบ 1.9 แสนราย (ซึ่งต้องจับตาว่า จะมีการปรับปรุงข้อมูลก่อนหน้าหรือไม่ เพราะในปีนี้ NFP มักจะถูกปรับลดลงราว -5 หมื่นตำแหน่ง หลังการปรับปรุงข้อมูล) ส่วนอัตราการว่างงานอาจทรงตัวที่ระดับ 3.8% ไม่ต่างจากเดือนก่อนหน้า เช่นเดียวกันกับ อัตราการเติบโตของค่าจ้าง (Average Hourly Earnings) ที่จะขยายตัว +4.3%y/y เท่ากับเดือนก่อนหน้า และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดอย่างใกล้ชิด
2. ฝั่งยุโรป – ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) อย่างใกล้ชิด หลังจากล่าสุด อัตราเงินเฟ้ออังกฤษและยูโรโซน ชะลอตัวลงมากขึ้น ทำให้ตลาดเริ่มมองว่า ทั้ง BOE และ ECB อาจจบรอบการขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว
3. ฝั่งเอเชีย – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งญี่ปุ่น อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ Tankan ที่สำรวจโดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) รวมถึง ข้อมูลตลาดแรงงานญี่ปุ่น โดยเฉพาะ อัตราการเติบโตของค่าจ้าง (Wage growth) ซึ่งอาจส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของ BOJ ได้ หากภาพรวมเศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวดีขึ้น ส่วนค่าจ้างก็มีแนวโน้มขยายตัวได้ดี จนอาจทำให้ BOJ มั่นใจว่า อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มอยู่ใกล้ระดับเป้าหมาย 2% ได้อย่างยั่งยืน ในส่วนผลการประชุมบรรดาธนาคารกลางฝั่งเอเชีย เราประเมินว่า แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงในหลายประเทศ จนเข้าใกล้เป้าหมายของบรรดาธนาคารกลาง แม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากภาวะ El Nino และการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงานในช่วงที่ผ่านมา ก็อาจทำให้บรรดาธนาคารกลางฝั่งเอเชีย เลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามเดิม โดยธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA), ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) และธนาคารกลางอินเดีย (RBI) อาจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.10%, 5.50% และ 6.50% ตามลำดับ
4. ฝั่งไทย – เราประเมินว่า แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพด้วยการลดค่าไฟฟ้าลง แต่ทว่า ผลกระทบจากภาวะ El Nino อาจยังหนุนให้ราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่มขึ้นราว +0.3%m/m (ส่วนใหญ่มาจากการปรับตัวขึ้นของราคาข้าว แป้ง ผักและผลไม้) นอกจากนี้ ราคาพลังงานยังปรับตัวขึ้นไม่น้อยกว่า +2%m/m ทำให้โดยรวมอัตราเงินเฟ้อทั่วไป อาจเพิ่มขึ้น +0.2%m/m หรือ +0.86%y/y ทั้งนี้ หากโมเมนตัมอัตราเงินเฟ้อรายเดือนเพิ่มขึ้นไม่เกิน +0.2%m/m ก็อาจทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ได้กังวลต่อแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อมากนักและการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอาจถึงจุดยุติแล้วที่ระดับ 2.50% อนึ่ง การฟื้นตัวของภาคการส่งออกที่ดีขึ้น อาจช่วยหนุนให้ดัชนี PMI ภาคการผลิตของไทยในเดือนกันยายน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 49.5 จุด ได้ สอดคล้องกับ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ (Business Sentiment) ที่อาจปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 50 จุด ได้อีกครั้ง หนุนโดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” หรือ Safe Haven โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน นักลงทุนมักจะหันไปถือทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง ราคาทองคำจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์เศรษฐกิจโลก อัตราดอกเบี้ย ค่าเงินดอลลาร์ ราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อ รวมถึงวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
ประเภทคำสั่งซื้อขายในตลาด Forex ที่สำคัญ มี 4 ประเภท 1.คำสั่งซื้อขายพื้นฐาน (Basic Forex Orders) 2.คำสั่งซื้อขายทันที (Market Orders) 3.คำสั่งซื้อขายล่วงหน้า (Pending Orders) 4.คำสั่งทำกำไรและป้องกันการขาดทุน (Risk Management Orders)
บทวิเคราะห์ทองคำ
บัญชีม้า คือบัญชีที่ถูกเปิดขึ้นเพื่อใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยเจ้าของบัญชีที่แท้จริงไม่ได้เป็นผู้ใช้ แต่ถูกนำไปใช้เพื่อกระทำผิดกฎหมาย เช่น ฉ้อโกง ฟอกเงิน หรือเป็นตัวกลางในการหลอกลวงทางออนไลน์