简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:IMF เตือนปี 2023 เศรษฐกิจโลกจะเผชิญเข้าสู่ภาวะถดถอย
คริสตาลินา จอร์เจียวา กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวในรายการ Face the Nation เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ว่าปี 2023 น่าจะเป็นปีที่ลำบากมากกว่าปีที่ผ่านมา เพราะ 3 กลุ่มประเทศเศรษฐกิจใหญ่อย่าง สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และจีน ต่างก็ชะลอตัวลงพร้อม ๆ กัน
ปัจจัยลบที่ทำให้เกิดสถานการณ์นี้คือ สงครามในยูเครน เนื่องจากรัสเซียและยูเครนถือเป็นผู้ส่งออกสินค้าสำคัญรายใหญ่ อย่างพลังงานและสินค้าการเกษตร ซึ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดวิกฤตพลังงาน ตลอดจนแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และดูเหมือนว่าสงครามน่าจะยังไม่สิ้นสุดในเร็ว ๆ นี้
อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อนอกจากนี้อีกหนึ่งเศรษฐกิจโลก คือสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ประเทศจีน ซึ่งจีนได้ยกเลิกมาตรการโควิดเป็นศูนย์ และได้เปิดประเทศในขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศพุ่งสูงขึ้นอย่างไร้การควบคุม ก็มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในปีนี้ และฉุดการเติบโตทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยจอร์เจียวา กล่าวว่า ปี 2022 นับเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีที่การเติบโตของจีนมีแนวโน้มเท่ากับหรือต่ำกว่าการเติบโตของ GDP ทั่วโลก
โดยความคิดเห็นล่าสุดของจอร์เจียวาอาจบ่งชี้ว่า IMF อาจปรับลดแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งของจีนและทั่วโลกในปลายเดือนนี้ ระหว่างการประชุม World Economic Forum
ขณะเดียวกันจอร์เจียวากล่าวอีกว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความยืดหยุ่นมากที่สุด และอาจหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ เนื่องจากมองว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม หากตลาดแรงงานยังแข็งแกร่งมาก Fed อาจต้องคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงนานขึ้น เพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลง
ปีที่แล้ว Fed ได้คุมเข้มนโยบายการเงินมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1980 ในปีที่ผ่านมา เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากใกล้ศูนย์ในเดือนมีนาคมเป็น 4.50% และเจ้าหน้าที่เฟดในเดือนที่แล้วได้คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ขึ้นสูงสุดถึง 5% ในปี 2023 ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ปรากฏตั้งแต่ปี 2007
ทั้งนี้ ตลาดงานในสหรัฐฯ ก็นับเป็นจุดสนใจหลักสำหรับเจ้าหน้าที่ Fed ที่ต้องการเห็นความต้องการแรงงานลดลง เพื่อช่วยลดแรงกดดันด้านราคา โดยในสัปดาห์แรกของปีใหม่จะมีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการจ้างงาน ซึ่งรวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรรายเดือนในวันศุกร์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก 200,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม และอัตราการว่างงานจะยังคงอยู่ที่ 3.7% ซึ่งใกล้เคียงกับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1960
IMF คาดการณ์ว่าในปี 2023 นี้ เศรษฐกิจโลกจะเติบโตขึ้นเพียงแค่ร้อยละ 2.7 เท่านั้น ลดลงจากร้อยละ 3.2 ในปี 2022 ขณะที่ องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ประเมินไว้ต่ำกว่านั้นอยู่ที่ร้อยละ 2.2 เทียบกับที่เคยระบุไว้ร้อยละ 3.1 ในปี 2022 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลกเมื่อปี 2001
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์ Moneta Markets
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบแปดสัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินเยน และทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งเดือนเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ในวันพฤหัสบดี เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับสงครามการค้า
บทวิเคราะห์ทองคำ
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” หรือ Safe Haven โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน นักลงทุนมักจะหันไปถือทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง ราคาทองคำจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์เศรษฐกิจโลก อัตราดอกเบี้ย ค่าเงินดอลลาร์ ราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อ รวมถึงวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น