简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ทองคำปิดปรับตัวบวก โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์
สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 8.14 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าช่วงเช้าของตลาดเอเชียราคาทองคําจะพุ่งขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,669.77 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์ หลังเงินเยนฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องขานรับการที่ทางญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราด้วยการทุ่มซื้อเงินเยนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ราคาทองคํา อ่อนตัวลงหลังจากนั้น โดยได้รับแรงกดดันส่วนหนึ่งจากแรงขายกําไร ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจในยูโรโซนหดตัวอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบเกือบ 2 ปีในเดือนต.ค. ประกอบกับหยวน offshore ดิ่งลงสู่ระดับต่ําสุดใหม่เป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ดํารงตําแหน่งผู้นําสมัยที่ 3 ได้สําเร็จ และรายชื่อคณะผู้บริหารระดับสูงยังคงมีแนวโน้มที่จะยึด มั่นในนโยบาย zero-COVID และนโยบายสนับสนุนภาครัฐมากกว่าการเติบโตของภาคเอกชน สถานการณ์ดังกล่าวหนุนให้ดัชนีดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ําสุดในระหว่างวัน ซึ่งเป็นปัจจัย กดดันราคาทองคําให้เกิดการพักตัวลง แม้ว่าเอสแอนด์พี โกลบอลจะเปิดเผยตัวเลขดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัว ซึ่ง อาจเป็นปัจจัยที่อาจทําให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงกังวลว่าเฟดจะคงจุดยืนที่แข็งกร้าวในการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อต่อไป นั่นทําให้การปรับตัวขึ้นของทองคํายังเป็นไปอย่างจํากัด ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําเพิ่ม +0.29 ตัน สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB และดัชนีภาคการผลิตเดือนต.ค.จากเฟดสาขาริชมอนด์
หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือโซน 1,644-1,638 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจทำให้เกิดการแรงซื้อเพิ่มขึ้น อาจเห็นการดีดตัวขึ้นไปโดยยังมี แนวต้านด้านบนที่1,669-1,684 ดอลลาร์ต่อออนซ์แต่ยืนเหนือแนวรับดังกล่าวไม่ได้ราคาอาจอ่อนตัวลงของราคาอีกครั้ง
คําแนะนํา เปิดสถานะซื้อ $1,644-1,638
จุดทํากําไร ขายเพื่อทํากําไร $1,669-1,684
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลด $1,617
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
FXCM
Pepperstone
HFM
AvaTrade
Markets.com
STARTRADER
FXCM
Pepperstone
HFM
AvaTrade
Markets.com
STARTRADER
FXCM
Pepperstone
HFM
AvaTrade
Markets.com
STARTRADER
FXCM
Pepperstone
HFM
AvaTrade
Markets.com
STARTRADER