简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของสหรัฐได้พุ่งขึ้นเหนือระดับ 6% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551
ข้อมูลจากสมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของสหรัฐได้พุ่งขึ้นเหนือระดับ 6% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551 และเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเพื่อการจำนองแบบคงที่ระยะเวลา 30 ปีได้เพิ่มขึ้น 0.07% สู่ระดับ 6.01% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงสิ้นสุดวิกฤตการเงินและภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเพื่อการจำนองได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปี 2565 โดยปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นอัตราอ้างอิงสำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สูงกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อดังกล่าวเป็นข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญตัวสุดท้าย ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 20-21 ก.ย.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 36% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% สู่ระดับ 3.25-3.50% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนัก 64% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ก่อนหน้านี้ นักลงทุนไม่เคยให้น้ำหนักว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมเดือนก.ย. และเพิ่งเริ่มให้น้ำหนัก 18% เมื่อวานนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงเกินคาด
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์จากโนมูระคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาด ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์จากโนมูระและสถาบันการเงินอื่นต่างคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมรอบนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากปรับขึ้น 0.75% ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยลดลง 0.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวลง 0.4% ในเดือนก.ค.เมื่อ เทียบรายปี ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 8.7% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2564 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.8% จากระดับ 9.8% ในเดือนก.ค.
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือ (โอเปก) ยังคงคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกที่แข็งแกร่งในปี 2565 และ 2566 โดยอ้างถึงสัญญาณว่า เศรษฐกิจในประเทศใหญ่ ๆ ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้แม้จะเผชิญอุปสรรคต่าง ๆ ก็ตาม เช่น อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น โอเปกระบุในรายงานประจำเดือนว่า อุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรล/วัน ในปี 2565 และ 2.7 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2566 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับคาดการณ์ของเดือนก่อนหน้า
ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงลงใกล้หลุดระดับ 1,710 ดอลลาร์ โดยปรับตัวลงต่อเนื่องจากวานนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถึงแม้ทองได้รับการมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในยามที่ตลาดเผชิญความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ แต่การที่เฟดมีแนวโน้มเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็ได้บดบังปัจจัยบวกดังกล่าว โดยการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทอง เนื่องจากทองเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
ขอบคุณข้อมูลจาก : Investing.com
คุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex อ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูลหมดไส้หมดพุง แอปเดียวที่จบครบ เรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
IC Markets Global
Trive
Exness
AvaTrade
Markets.com
ATFX
IC Markets Global
Trive
Exness
AvaTrade
Markets.com
ATFX
IC Markets Global
Trive
Exness
AvaTrade
Markets.com
ATFX
IC Markets Global
Trive
Exness
AvaTrade
Markets.com
ATFX