简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:บทวิเคราะห์ราคาทองคำ XAUUSD ประจำวัน
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในระหว่างวันได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์เผชิญกับแรงขายทำกำไรท่ามกลางการ คาดการณ์ที่ว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐจะชะลอตัวลง ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกอบกับสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดใน รอบ 3 สัปดาห์ขานรับความเห็นของผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่มองเห็นความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่ ECB จะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลักสู่ระดับ 2% หรือ มากกว่า
เพื่อควบคุม อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สถานการณ์ดังกล่าวกดดันดัชนีดอลลาร์ ให้อ่อนค่าลงแตะที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 26 ส.ค. ที่ 107.81จนเป็นปัจจัยผลักดันให้ราคาทองคำฟื้น ตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และทดสอบระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 1,735.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ราคาฤทองคำจะลดช่วงบวกลงเนื่องจากเผชิญกับแรงขายทำกำไรและแรงขายทาง เทคนิคหลังจากราคาเริ่มเข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป(Overbought) นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี
ซึ่งฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดใน ระหว่างวันบริเวณ 3.2736% หลังดีมานด์ในการปรมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีมูลค่า 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์เป็นอย่างซบเซา สะท้อนจากBid coverage ratio ที่เป็นมาตรวัดความต้องการ ครั้งนี้อยู่ที่ 2.37 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในการประมูล 6 ครั้งล่าสุดซึ่งอยู่ที่ 2.42 ปัจจัยดังกล่าวสกัดช่วงบวกทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่มเติม ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -1.73 ตัน สำหรับวันนี้จับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)ของสหรัฐ
หากราคาทองคำไม่สามารถ break out ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,734-1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไป ได้ (กรอบด้านบนของ Sideway Up ) อาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นให้กลับลงมาสร้างฐานราคา ด้านล่างอีกครั้ง เบื้องต้นประเมินว่าราคายังคงเคลื่อนไหวเหนือแนวรับ 1,711-1,697 ดอลลาร์ต่อ ออนซ์ได้จะมีแรงดีดกลับไปทดสอบแนวต้านด้านบนอีกครั้ง
คำแนะนำ เปิดสถานะซื้อ $1,711-1,697
จุดทำกำไร ขายเพื่อทำกำไร $1,734-1,736
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,676
ข้อมูลจาก : Investing.com
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
EC Markets
FXTM
Exness
XM
Trive
FXCM
EC Markets
FXTM
Exness
XM
Trive
FXCM
EC Markets
FXTM
Exness
XM
Trive
FXCM
EC Markets
FXTM
Exness
XM
Trive
FXCM