简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ราคาทองคําได้รับแรงกดดันสำคัญจากการคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ตอนนี้เรามีแอพพลิเคชั่น อย่าลืมโหลดแอพจะได้ไม่พลาดข่าวสารวงการ Forex https://www.wikifx.com/th/download.html
สรุปราคาทองคําวานนี้ปิดลดลง 12.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําได้รับแรงกดดันสำคัญจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ก่อนที่จะ “คง” ดอกเบี้ยไว้ตลอดทั้งปีหน้าโดย “ไม่รีบเร่ง” ในการปรับ “ลด” อัตราดอกเบี้ย และอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันทองคําเมื่อวานนี้ คือ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับเงิน เฟ้อ หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนพุ่งขึ้นสู่ระดับ 9.1% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่ยูโรสแตทเริ่มรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 1997 และสูงกว่าที่ นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.0% สถานการณ์ดังกล่าว ดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 1.584% ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. ส่วนอัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีพุ่งขึ้นเหนือ 3.5% สู่ระดับสูงสุดระดับ 15 ปี ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งทดสอบ 3.25% จนกดต้นทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยอย่างหนัก แม้การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐจาก ADP จะเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดเพียง 300,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. แต่การดีดตัวของทองคําเป็นไปอย่างจํากัด พร้อมกับเกิดแรงขายสลับออกมาจนส่งผลให้ทองคําปิดตลาดในเดือนส.ค.ด้วยการปรับตัวลง -3.13% และปิดลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2018 และ ปรับตัวลงต่อในช่วงเช้าของวันนี้ในตลาดเอเชียและเพิ่งทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์บริเวณ 1,702 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําลดลง -2.5-3 คัน สำหรับวันนี้ติดตามการ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, ประสิทธิภาพการผลิตต่อหน่วยและประสิทธิภาพต้นทุนแรงงานต่อหน่วย, ดัชนี PMI ภาคการผลิตจาก ISM และข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐ
หากราคาทองค ายังไม่หลุดต่ำกว่าแนวรับโซน 1,693 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็ยังมีโอกาสลุ้นขึ้นทดสอบ แนวต้าน 1,720-1,737 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดต่ำกว่าแนวรับแรกราคาทองค าอาจย่อลงมาที่ 1,681-1,676 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเพราะเป็นระดับต่ำสุดของปี 2022,2021
คำแนะนํา เปิดสถานะซื้อ $1,693-1,676
จุดทำกําไรขายเพื่อทำกําไร $1,720-1,737
ตัดขาดทุนตัดขาดทุนสกานะซื้อหากหลุด $1,676
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เปรียบเทียบบิทคอยน์และทองคำในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในด้านจำนวนจำกัด ความสามารถในการเก็บมูลค่า ความปลอดภัย และความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย ทั้งสองสินทรัพย์มีบทบาทในการป้องกันความเสี่ยงและตอบโจทย์นักลงทุนในลักษณะที่ต่างกัน — บิทคอยน์เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงและสนใจเทคโนโลยีใหม่ ส่วนทองคำเหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงระยะยาว บทสรุปเสนอแนวทาง “กระจายการลงทุน” ถือทั้งสองสินทรัพย์ตามสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างโอกาสและความปลอดภัยในพอร์ตลงทุน
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
IC Markets Global
FXCM
GO Markets
FOREX.com
XM
IB
IC Markets Global
FXCM
GO Markets
FOREX.com
XM
IB
IC Markets Global
FXCM
GO Markets
FOREX.com
XM
IB
IC Markets Global
FXCM
GO Markets
FOREX.com
XM
IB