简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ทองคำได้แรงหนุนหลังดอลลาร์อ่อนค่า แต่ถูกกดดันจากแรงขายทำกำไร
สรุป ราคาทองคําวานนี้ปีตปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยรวมราคาทองคําในระหว่างวันได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์ หลังจากนักลงทุนลดการ คาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟต)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 100 bps หรือ 1.00% ในการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 26-27 ก.ค. ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ปิดอ่อนค่าลง 0.56% สู่ ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ในวันจันทร์ จนเป็นปัจจัยเบื้องหลังสำคัญที่ทำให้ราคาทองคําปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,723.61 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคํา ลดช่วงบวกลงในเวลาต่อมา โดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกําไร นอกจากนี้ ราคาทองคํายังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับเพิ่มขึ้นในวันจันทร์ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ออกมาดีเกินคาตและการคาดการณ์ว่าเฟดอาจไม่ขึ้นดอกเบี้ย 100 bps หรือ 1.00% ในการประชุมเดือนนี้ ทำให้นักลงทุนบางส่วนกลับมาเปิดรับความเสี่ยงอีกครั้ง ทั้งนี้ แรงขายพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.172%
ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.987% จนเป็นปัจจัยกดดันทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของตอกเบี้ย ต้านทองทุน SPDR ถือครองทองคํา สตลงอีก -5.22 ต้น สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างและข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน รวมไปถึงถ้อยแถลงของนางสาเอล เบรนาร์ต หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟต
ราคาทองคำเกิดแรงซื้อดีดตัวขึ้นหลังจากที่อ่อนตัวลงมาใกล้ 1,698-1,697 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับต่ำสุดของสัปดาห์ก่อนหน้า) โดยราคาพยายามเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบเพื่อสร้างฐานราคาเบื้องต้นมีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,724 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถผ่านไปได้ ประเมินว่าจะ เกิดแรงซื้อดันมาเข้าใกล้แนวต้านสำคัญโซน 1,746 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง(ระดับสูงสุดของสัปดาห์ก่อนหน้า)
คำแนะนําเปิดสถานะซื้อ $1,697-1,676
จุดทำกําไรขายทำกําไร $1,724-1,746
ตัดขาดทุนตัดขาดทุนสกานะซื้อหากหลุด $1,676
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
FXCM
FBS
Neex
Markets.com
Pepperstone
EC Markets
FXCM
FBS
Neex
Markets.com
Pepperstone
EC Markets
FXCM
FBS
Neex
Markets.com
Pepperstone
EC Markets
FXCM
FBS
Neex
Markets.com
Pepperstone
EC Markets