简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:สรุปราคาทองคําวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ระหว่างวันราคาทองคําจะได้รับแรงกดดันจากดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ที่ 96.462
สรุปราคาทองคําวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ระหว่างวันราคาทองคําจะได้รับแรงกดดันจากดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ที่ 96.462 และอัตราผลตอบแทนรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ที่ 1.6858% ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วสุดในการ ประชุมเดือนมี.ค. ปัจจัยดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคําอ่อนตัวลงทําระดับต่ำสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,795.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อ Buy the dip เข้ามาพยุงไว้เนื่องจากราคา ทองคําอ่อนตัวลงแต่ยกระดับต่ําสุดขึ้น ประกอบกับนักลงทุนบางส่วนเข้าซื้อทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อ โควิด- 19 ทะยานขึ้นทําสถิติใหม่ในหลายประเทศทั่ว โลก นําโดยสหรัฐที่รายงานผู้ติดเชื้อ COVID-19 มากกว่า 1 ล้านรายในวันจันทร์ นอกจากนี้ ราคาทองคํายังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาแย่เกินคาด ทั้งตัวเลข การเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ที่ลดลงสู่ระดับ 10.6 ล้านตําแหน่งในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 11.075 ล้านตําแหน่ง
ส่วนดัชนีภาคการ ผลิตของสหรัฐจาก ISM ปรับตัวลงสู่ระดับ 58.7 ในเดือนธ.ศ. แตะระดับต่ําสุดนับตั้งแต่เดือนม.ศ.2021 และต่ํากว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 60.1 ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ลดช่วงบวกจนเป็น ปัจจัยหนุนราคาทองคําให้ทะยานขึ้นจากระดับต่ําสุดสู่ระดับสูงสุดบริเวณ 1,816.57 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองเพิ่ม +4.65 ตัน สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลข การจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP, ดัชนี PMI ภาคการบริการจากมาร์กิต และรายงานการประชุมเฟดประจําเดือนธ.ค.
ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุด 1,805-1,799 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีโอกาสที่ราคาพยายามทรงตัวรักษาระดับไว้จะทำให้มุมมองเชิงบวก ระยะสั้นเพิ่มขึ้น โดยหากยืนเหนือระดับสูงสุดของวันก่อนหน้าได้ การขยับขึ้นจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดแนวรับแรก แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะนํา
เปิด/ถือสถานะซื้อ 1,805-1,799
จุดทํากําไร
ขายทํากําไร $1,831
ตัดขาดทุน
ตัดขาดทุนสกานะซื้อหากหลด $1,798
แนะนำฟีเจอร์ “การเปิดเผย” เราแนะนำถ้าโดนโบรกเกอร์โกง คุณสามารถมาร้องเรียนโบรกเกอร์ในนี้ได้ หรือถ้าคุณอยากดูรีวิวโบรกเกอร์จากผู้ใช้จริง สามารถกดเข้าไปที่ ‘การเปิดเผย’ และคุณจะเจอการร้องเรียนโบรกเกอร์ Forex จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อใช้พิจารณาการเลือกโบรกเกอร์!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
กลางเดือนมิถุนายน 2568 ราคาทองคำในประเทศไทยพุ่งสูงจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และเงินบาทที่อ่อนค่า ร้านค้าทองบางแห่งถึงขั้นหยุดซื้อ–ขายชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง นักลงทุนควรติดตามข่าวสาร เข้าใจกลไกราคา และระมัดระวังการตัดสินใจท่ามกลางภาวะตลาดผันผวนสูง
บทความนี้เปรียบเทียบบิทคอยน์และทองคำในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในด้านจำนวนจำกัด ความสามารถในการเก็บมูลค่า ความปลอดภัย และความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย ทั้งสองสินทรัพย์มีบทบาทในการป้องกันความเสี่ยงและตอบโจทย์นักลงทุนในลักษณะที่ต่างกัน — บิทคอยน์เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงและสนใจเทคโนโลยีใหม่ ส่วนทองคำเหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงระยะยาว บทสรุปเสนอแนวทาง “กระจายการลงทุน” ถือทั้งสองสินทรัพย์ตามสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างโอกาสและความปลอดภัยในพอร์ตลงทุน
แจ้งไลฟ์สดโดย คุณเพชร จากเพจ "เพชรพร้อมเทรด" ในวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 – 15.00 น.
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าไม่เสื่อมสลายและสามารถช่วยรักษาความมั่งคั่งในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจหรือการเงินที่ผันผวน มันมีคุณสมบัติเป็น "สินทรัพย์ปลอดภัย" และให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว การลงทุนในทองคำสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการซื้อทองคำแท่ง กองทุนรวมทองคำ หรือผ่าน Gold ETFs และ Gold Futures นักลงทุนควรเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับเป้าหมายและระยะเวลาการลงทุน เพื่อเพิ่มความมั่นคงและกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน.
IC Markets Global
OANDA
KVB
TMGM
EC Markets
Trive
IC Markets Global
OANDA
KVB
TMGM
EC Markets
Trive
IC Markets Global
OANDA
KVB
TMGM
EC Markets
Trive
IC Markets Global
OANDA
KVB
TMGM
EC Markets
Trive