简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:สื่อด้านการเงินระดับโลก Bloomberg พบว่านักลงทุนกำลังป้องกันสินทรัพย์ของพวกเขาจากความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อโดยใช้ Bitcoin
เมื่อเร็ว ๆ นี้สื่อด้านการเงินระดับโลก Bloomberg พบว่านักลงทุนกำลังป้องกันสินทรัพย์ของพวกเขาจากความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อโดยใช้ Bitcoin โดยในทวิตเตอร์ บริษัท เรียกมันว่าเป็น “ตัวป้องกันเงินเฟ้อที่ดีที่สุด” แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมองอย่างไร Bitcoin เอาชนะเงินเฟ้อ หลังจากวิเคราะห์ตัวเลขแล้ว John Authers แห่ง Bloomberg Opinion พบว่า Bitcoin ประสบภาวะเงินฝืดถึง 99.996% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ราคา Bitcoin หนึ่ง BTC ในปี 2011 ตอนนี้มีราคาเพียง 0.004% ของราคา Bitcoin ในปัจจุบันเท่านั้น
ในขณะเดียวกัน CPI ได้เพิ่มขึ้น 28% ในรูปแบบดอลลาร์ เมื่อไม่กี่วันก่อนราคา Bitcoin พุ่งขึ้นสู่ระดับใหม่ตลอดเวลาหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในเดือนตุลาคมคลอดออกมา ตั้งแต่ปีที่แล้ว CPI เพิ่มขึ้น 6.2% ทั่วประเทศ โดยเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 1990 ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อใช้การวัด CPI ของปี 1980 อัตราเงินเฟ้อก็เพิ่มขึ้นเกือบ 15% นักเศรษฐศาสตร์ของ Bloomberg ประเมินว่าประมาณครึ่งหนึ่งของราคา Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ เกิดจากความกลัวเรื่องเงินเฟ้อ อีกครึ่งหนึ่งเกิดจากการซื้อขายแบบโมเมนตัม:
“แบบจำลองของเราแสดงให้เห็นว่าสำหรับ Bitcoin ความสำคัญของอัตราเงินเฟ้อและการป้องกันความเสี่ยงต่อความไม่แน่นอนกลายเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป โดยคิดเป็น 50% ของการเคลื่อนไหวของราคาในรอบล่าสุดเมื่อเทียบกับ 20% ในปี 2560” Björn van Roye และ Tom Orlik กล่าว ทำไม Bitcoin ถึงป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ? การรับรู้ของสาธารณชนเกี่ยวกับ Bitcoin ว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เมื่อเดือนที่แล้ว Paul Tudor Jones ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ของมหาเศรษฐีพันล้านเรียกสินทรัพย์ดังกล่าวว่าเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงได้ดีกว่าทองคำ นอกจากนี้ JP Morgan มองว่า Bitcoin มีค่าด้วยเหตุผลเดียวกัน
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
“Bitcoin Pizza Day” เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของคริปโตเคอร์เรนซี่ โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2010 เมื่อโปรแกรมเมอร์ชาวฟลอริดาชื่อ Laszlo Hanyecz ใช้ Bitcoin จำนวน 10,000 เหรียญซื้อพิซซ่า 2 ถาด ถือเป็นครั้งแรกที่ Bitcoin ถูกใช้ในการซื้อสินค้าจริงในชีวิตประจำวัน แม้เหรียญเหล่านั้นจะมีมูลค่าเพียง 1,300 บาทในตอนนั้น แต่หากเก็บไว้จนถึงปัจจุบัน มูลค่าจะทะลุ 33,000 ล้านบาท เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยน Bitcoin จากแนวคิดในกลุ่มเล็ก ๆ ให้กลายเป็นสินทรัพย์ระดับโลกที่มีอิทธิพลทางการเงินอย่างมหาศาล.
บทความนี้พาย้อนรอยคดีแชร์ลูกโซ่ในโลกคริปโต ตั้งแต่ BitConnect, OneCoin, PlusToken ไปจนถึงโปรเจกต์ไทยอย่าง HashBX และฟีเวอร์ ICO ในปี 2017–2018 สะท้อนให้เห็นรูปแบบหลอกลวงที่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหน้าตา แต่ยังคงใช้กลยุทธ์เดิมคือ “สัญญาผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น” โดยแฝงเทคโนโลยีทันสมัยมาเพิ่มความน่าเชื่อถือ บทเรียนสำคัญคือ นักลงทุนต้องระวังกับคำพูดที่ดูดีเกินจริง และควรตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยได้ในระยะยาว.
เตือนภัยคริปโต! มิจฉาชีพยกระดับแผนหลอกลวง ส่ง จดหมายปลอมถึงบ้าน แอบอ้างชื่อ Ledger พร้อม QR Code หลอกให้กรอก Recovery Phrase หวังกวาดเหรียญเกลี้ยงกระเป๋า! ไม่ใช่แค่นั้น ยังมี แอป Ledger Live ปลอมสำหรับ macOS ฝังมัลแวร์ดูดข้อมูลเต็มระบบ ผู้ใช้คริปโตควรระวังทั้งออนไลน์และออฟไลน์อย่างเคร่งครัด
บังฮาซัน แม่ค้าสุดไวรัลจากสตูล เผยเรื่องราวสุดช็อก ทำ Hardware Wallet ที่เก็บ Bitcoin หลักล้านตกน้ำ สูญคริปโตที่สะสมมาตั้งแต่ปี 2020 เจ้าตัวย้ำ “ไม่แนะนำให้ใครตาม” พร้อมแชร์บทเรียนเรื่องการออม–การลงทุน พร้อมแนวคิด “ทำงานหนักแค่ไหน ถ้าไม่ออมก็ไม่มีวันสบาย” แม้คริปโตจะจมหาย แต่แรงบันดาลใจกลับลอยเด่นในใจแฟนคลับ
FXTM
Exness
FBS
ATFX
EC Markets
AvaTrade
FXTM
Exness
FBS
ATFX
EC Markets
AvaTrade
FXTM
Exness
FBS
ATFX
EC Markets
AvaTrade
FXTM
Exness
FBS
ATFX
EC Markets
AvaTrade