简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เจ้าสัว ‘CP’ เผย สนใจศึกษา ‘Bitcoin’ ต่อไป แม้เคยพลาดท่าเสียเงินไปกว่า 212 ล้านบาท
เรื่องนี้ถูกเปิดเผยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อ ‘เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์’ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ เครือ ‘CP’ ได้ปรากฏตัวขึ้นใน ‘Clubhouse’ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแรกที่เจ้าสัวเปิดแอคเคาท์ภายใต้ชื่อของตัวเอง โดยได้มีการกล่าวทักทาย และพูดคุยเป็นครั้งแรกผ่านห้องที่ชื่อว่า ‘SME Clinic โดยคุณธนินท์ ร่วมคิดฝ่าวิกฤตด้วยช่วยคุณ’
โดยมีการพูดถึงประเด็นเกี่ยวกับการทำธุรกิจ และสตาร์ทอัพ ถึงแนวทางการเติบโต และการแก้ไขปัญหาต่างๆ นอกจากนี้ ‘เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์’ ยังเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ เพื่อเป็นกรณีศึกษา เกี่ยวกับในช่วงที่ ‘แจ็คหม่า’ ผู้ก่อตั้ง ‘Alibaba’ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ที่ตอนนั้นเป็นเพียงธุรกิจ SME เล็กๆ ที่ยังไม่มีการเติบโตมากนัก เดินทางมาพบกับตน เพื่อพูดคุย และขอทุนในการก่อตั้งบริษัท ‘Alibaba’ แต่ในตอนนั้นตนไม่ได้ตอบตกลงไป
ซึ่งตัวเจ้าสัวธนินท์เองยอมรับว่าจนถึงวันนี้เขาก็ยังคิดทบทวนคำตอบของตัวเองในวันนั้นอยู่ พร้อมกล่าวนำเรื่องราวของ ‘แจ็คหม่า’ มาเปรียบเทียบกับการลงทุนใน ‘Bitcoin’ ของตนอีกว่า
“ทุกอย่างล้วนมีเหตุและมีผล ตอนนั้นที่ ‘แจ็คหม่า’ มาชวนผมลงทุนก่อตั้ง Alibaba เขาบอกผมว่า E-commerce นั้นเป็นภูเขา แต่ผมมองเห็นว่าเป็นแค่ต้นไม้ เหมือนวันนั้นไม่มีผิดเมื่อ 3 ปีก่อนผมได้เสียเงินให้ ‘Bitcoin’ ไปประมาณ 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 212 ล้านบาท) แต่วันนี้ผมยังไม่เข้าใจมันอย่างถ่องแท้ และกำลังเรียนรู้อยู่”
อีกทั้งยังกล่าวทิ้งท้ายไว้อีกว่า ถ้าหากวันนั้นตนเชื่อคำพูดของ ‘แจ็คหม่า’ วันนี้ตนคงรวยแบบไม่รู้เรื่องแล้ว เพราะตนได้รู้จัก ‘แจ็คหม่า’ เป็นแรกๆ อีกด้วย
อย่างไรก็ตามทาง ‘Wikibit’ มองว่า เรื่องราวข้างต้นนั้น มันสอนให้เราได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง เพราะแม้แต่นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประเทศไทยอย่างเจ้าสัว ‘CP’ ยังเคยตัดสินใจผิดพลาด และเสียท่าให้ ‘Bitcoin’ เพราะความไม่รู้มาก่อน แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ และยังคงศึกษาเกี่ยวกับมันต่อไป ดังนั้นหากตอนนี้คุณล้ม ก็อย่าเพิ่งยอมแพ้ ลุกขึ้นมาศึกษามัน ลงทุนอย่างมีสติให้มากขึ้น ใช้แอป ‘Wikibit’ เสพข่าวสาร และตรวจสอบมันให้ดีก่อนลงทุน เราเชื่อว่าในอนาคตคุณอาจเป็นอีกคนที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนอย่างแน่นอน
คุณเองก็สามารถติดตามข่าวสารดีๆ ในวงการคริปโตได้ เพียงแค่กดติดตามเพจ ‘Wikibit.TH’ แล้วโหลดแอปพลิเคชั่น ‘Wikibit’ มาไว้ในมือถือ แถมตัวแอปยังมีฟีเจอร์โดนๆ สำหรับนักลงทุน อย่าง การตรวจสอบ ‘แอปเทรดคริปโต’ ‘เหรียญคริปโต’ และ ‘DeFi’ ไว้ให้อีกด้วย เพียงแค่คุณกดค้นหาเท่านั้น ข้อมูลที่คุณควรรู้ก็จะปรากฏขึ้นมาแบบครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น คะแนนความน่าเชื่อถือจากแอป ใบอนุญาต ข้อมูลโครงการ การเยี่ยมชมจากเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันการมีอยู่ของบริษัทนั้น ถือว่าครบจบในแอปเดียว โหลดเลย!!
ติดตามข้อมูลข่าวสารวงการคริปโต พร้อมตรวจสอบ Exchange ทั่วโลก รวบรวมข้อมูล Shitcoin และโครงการเถื่อน ได้ที่….
App : “WikiBit” (ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ ฟรี!)
Facebook : https://www.facebook.com/Wikibit.th/ (กด SEE FRIST เพื่อที่คุณจะไม่พลาดข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ จากทางเพจ)
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้เปิดโปงปรากฏการณ์ “Pump and Dump” ในโลกคริปโต ที่อินฟลูเอนเซอร์ใช้ชื่อเสียงปลุกกระแสเหรียญเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน โดยมักได้รับค่าตอบแทนหรือถือเหรียญไว้ล่วงหน้า ก่อนราคาจะถูกปั่นขึ้นจากความเชื่อของผู้ติดตาม แล้วถูกเทขายจนเหรียญราคาร่วง กรณีศึกษา “SaveTheKids” ชี้ให้เห็นว่าแม้อินฟลูเอนเซอร์จะมีชื่อเสียง แต่ไม่ได้หมายความว่ามีจรรยาบรรณ นักลงทุนจึงต้องใช้วิจารณญาณและตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน
“Bitcoin Pizza Day” เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของคริปโตเคอร์เรนซี่ โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2010 เมื่อโปรแกรมเมอร์ชาวฟลอริดาชื่อ Laszlo Hanyecz ใช้ Bitcoin จำนวน 10,000 เหรียญซื้อพิซซ่า 2 ถาด ถือเป็นครั้งแรกที่ Bitcoin ถูกใช้ในการซื้อสินค้าจริงในชีวิตประจำวัน แม้เหรียญเหล่านั้นจะมีมูลค่าเพียง 1,300 บาทในตอนนั้น แต่หากเก็บไว้จนถึงปัจจุบัน มูลค่าจะทะลุ 33,000 ล้านบาท เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยน Bitcoin จากแนวคิดในกลุ่มเล็ก ๆ ให้กลายเป็นสินทรัพย์ระดับโลกที่มีอิทธิพลทางการเงินอย่างมหาศาล.
บทความนี้พาย้อนรอยคดีแชร์ลูกโซ่ในโลกคริปโต ตั้งแต่ BitConnect, OneCoin, PlusToken ไปจนถึงโปรเจกต์ไทยอย่าง HashBX และฟีเวอร์ ICO ในปี 2017–2018 สะท้อนให้เห็นรูปแบบหลอกลวงที่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหน้าตา แต่ยังคงใช้กลยุทธ์เดิมคือ “สัญญาผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น” โดยแฝงเทคโนโลยีทันสมัยมาเพิ่มความน่าเชื่อถือ บทเรียนสำคัญคือ นักลงทุนต้องระวังกับคำพูดที่ดูดีเกินจริง และควรตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยได้ในระยะยาว.
เตือนภัยคริปโต! มิจฉาชีพยกระดับแผนหลอกลวง ส่ง จดหมายปลอมถึงบ้าน แอบอ้างชื่อ Ledger พร้อม QR Code หลอกให้กรอก Recovery Phrase หวังกวาดเหรียญเกลี้ยงกระเป๋า! ไม่ใช่แค่นั้น ยังมี แอป Ledger Live ปลอมสำหรับ macOS ฝังมัลแวร์ดูดข้อมูลเต็มระบบ ผู้ใช้คริปโตควรระวังทั้งออนไลน์และออฟไลน์อย่างเคร่งครัด
Exness
IC Markets Global
EC Markets
Saxo
Neex
STARTRADER
Exness
IC Markets Global
EC Markets
Saxo
Neex
STARTRADER
Exness
IC Markets Global
EC Markets
Saxo
Neex
STARTRADER
Exness
IC Markets Global
EC Markets
Saxo
Neex
STARTRADER