简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:คงไม่มีนักเทรดคริปโตคนไหนไม่รู้จัก ‘Bitcoin’ เหรียญแม่แห่งวงการคริปโตเคอเรนซี่ ที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางราคาของเหรียญดิจิทัลทั้งมวล แต่หลายๆ คนนั้น ยังไม่รู้ว่ามันถูกสร้างขึ้นมาทำไม และใครเป็นคนสร้าง?
คงไม่มีนักเทรดคริปโตคนไหนไม่รู้จัก ‘Bitcoin’ เหรียญแม่แห่งวงการคริปโตเคอเรนซี่ ที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางราคาของเหรียญดิจิทัลทั้งมวล แต่หลายๆ คนนั้น ยังไม่รู้ว่ามันถูกสร้างขึ้นมาทำไม และใครเป็นคนสร้าง?
‘Bitcoin’ ถูกพัฒนาขึ้นในปี 2007 และถูกเปิดเผยในปี 2009 โดย ‘Satoshi Nakamoto’ บุคคลลึกลับที่อ้างว่าตัวเองนั้นมาจากประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่มีข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมที่จะสามารถระบุตัวตนที่แท้จริงของเขาได้เลย
เขาสร้าง ‘Bitcoin’ ขึ้นมาจากรหัสลับทางคอมพิวเตอร์ เพื่อทำลายระบบทางการเงินแบบเก่า ให้สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางอย่างธนาคาร ไม่มีใครเป็นเจ้าของ หรือควบคุมมันได้ โดยใช้ระบบ ‘Blockchain’ เป็นตัวตรวจสอบ จนกลายเป็นสกลุเงินคริปโตตัวแรกของโลก ทั้งนี้ตัวของ Satoshi เองนั้นยังเป็นผู้ถือครอง ‘Bitcoin’ จากการขุดมากกว่า 1 ล้าน BTC ซึ่งถ้าตีมูลค่าจากราคาฝนปัจจุบันแล้วละก็บอกได้เลยว่ารวยมาก!!!
ต่อมาเมื่อพิจารณาจากความเชี่ยวชาญด้านการเข้ารหัสที่สูงมากของ Satoshi แต่กลับไม่มีชื่อนี้ในวงการวิชาการการเข้ารหัส เช่น บทความในวารสารวิชาการหรืองานประชุมวิชาการใดๆ แล้ว ที่เขาว่ากันว่าชื่อ Satoshi นั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อโครงการนี้โดยเฉพาะอาจจะเป็นความจริง
อย่างไรก็ตามที่มาที่ไปของผู้ก่อตั้ง ‘Bitcoin’ ยังคงเป็นปริศนาที่ใครหลายๆ คนให้ความสนใจ และพยายามสืบค้น ซึ่ง ณ ตอนนี้เราก็ยังไม่รู้ว่า ‘Satoshi Nakamoto’ แท้จริงแล้วเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย เป็นคนที่สูงหรือเตี้ย ผิวดำหรือขาว และเป็นคนสัญชาติญี่ปุ่นจริงหรือไม่ ถึงแม้จะมีคนที่ออกมาอ้างตัวว่าเป็น ‘Satoshi Nakamoto’ กันเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Craig Wright, Jorg Molt, Bilal Khalid และ Debo Guidos แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครที่สามารถหากหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาคือ ‘Satoshi Nakamoto’ ตัวจริงเสียงจริง!!
เมื่อตรวจสอบข้อมูลของเหรียญ ‘Bitcoin’ ผ่านแอป ‘Wikibit’ พบว่า ‘Bitcoin’ เป็นเหรียญที่ดีมีคุณภาพ ได้รับความนิยมจนติดอันดับ 1 ใน Ranking ที่ทางแอปจัดทำขึ้น ได้คะแนนจากแอปอยู่ที่ 9.09/10 คะแนน มีมูลค่าทางตลาดสูงถึง 20.1986 ล้านล้านบาท และมีราคาตลาดปัจจุบันอยู่ที่ 1.09 ล้านบาท ต่อ 1 BTC ในเวลา 13.30 น ของวันที่ 25 มิถุนายน 2564 ซึ่งใครที่สนใจอยากลงทุนในเหรียญสามารถเข้ามาตรวจสอบข้อมูล และอ่าน ‘Whitepaper’ ของเหรียญได้ที่แอป ‘Wikibit’ โหลดฟรี!!
คุณเองก็สามารถติดตามข่าวสารดีๆ เกี่ยวกับวงการคริปโตได้ง่ายๆ เพียงกดติดตามเพจติดตามเพจ Wikibit แล้วโหลดแอปพลิเคชั่น ‘Wikibit’ มาไว้ในมือถือ แถมตัวแอปยังมีฟีเจอร์โดนๆ สำหรับนักลงทุน อย่าง การตรวจสอบ Exchange และ Token ไว้ให้อีกด้วย เพื่อช่วยให้การตัดสินใจในการลงทุนของคุณนั้นง่ายขึ้น เพียงแค่คุณกดค้นหาเท่านั้น ข้อมูลที่คุณควรรู้ก็จะปรากฏขึ้นมาแบบครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น คะแนนความน่าเชื่อถือจากแอป ใบอนุญาต ข้อมูลโครงการ การเยี่ยมชมจากเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันการมีอยู่ของบริษัทนั้น ถือว่าครบจบในแอปเดียว โหลดเลย!
ติดตามข้อมูลข่าวสารวงการคริปโต พร้อมตรวจสอบ Exchange ทั่วโลก รวบรวมข้อมูล Shitcoin และโครงการเถื่อน ได้ที่….
App : “WikiBit” (ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ ฟรี!)
Facebook : https://www.facebook.com/Wikibit.th/ (กด SEE FRIST เพื่อที่คุณจะไม่พลาดข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ จากทางเพจ)
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้เปรียบเทียบบิทคอยน์และทองคำในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในด้านจำนวนจำกัด ความสามารถในการเก็บมูลค่า ความปลอดภัย และความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย ทั้งสองสินทรัพย์มีบทบาทในการป้องกันความเสี่ยงและตอบโจทย์นักลงทุนในลักษณะที่ต่างกัน — บิทคอยน์เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงและสนใจเทคโนโลยีใหม่ ส่วนทองคำเหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงระยะยาว บทสรุปเสนอแนวทาง “กระจายการลงทุน” ถือทั้งสองสินทรัพย์ตามสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างโอกาสและความปลอดภัยในพอร์ตลงทุน
บทความนี้เปิดโปงปรากฏการณ์ “Pump and Dump” ในโลกคริปโต ที่อินฟลูเอนเซอร์ใช้ชื่อเสียงปลุกกระแสเหรียญเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน โดยมักได้รับค่าตอบแทนหรือถือเหรียญไว้ล่วงหน้า ก่อนราคาจะถูกปั่นขึ้นจากความเชื่อของผู้ติดตาม แล้วถูกเทขายจนเหรียญราคาร่วง กรณีศึกษา “SaveTheKids” ชี้ให้เห็นว่าแม้อินฟลูเอนเซอร์จะมีชื่อเสียง แต่ไม่ได้หมายความว่ามีจรรยาบรรณ นักลงทุนจึงต้องใช้วิจารณญาณและตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน
“Bitcoin Pizza Day” เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของคริปโตเคอร์เรนซี่ โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2010 เมื่อโปรแกรมเมอร์ชาวฟลอริดาชื่อ Laszlo Hanyecz ใช้ Bitcoin จำนวน 10,000 เหรียญซื้อพิซซ่า 2 ถาด ถือเป็นครั้งแรกที่ Bitcoin ถูกใช้ในการซื้อสินค้าจริงในชีวิตประจำวัน แม้เหรียญเหล่านั้นจะมีมูลค่าเพียง 1,300 บาทในตอนนั้น แต่หากเก็บไว้จนถึงปัจจุบัน มูลค่าจะทะลุ 33,000 ล้านบาท เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยน Bitcoin จากแนวคิดในกลุ่มเล็ก ๆ ให้กลายเป็นสินทรัพย์ระดับโลกที่มีอิทธิพลทางการเงินอย่างมหาศาล.
บทความนี้พาย้อนรอยคดีแชร์ลูกโซ่ในโลกคริปโต ตั้งแต่ BitConnect, OneCoin, PlusToken ไปจนถึงโปรเจกต์ไทยอย่าง HashBX และฟีเวอร์ ICO ในปี 2017–2018 สะท้อนให้เห็นรูปแบบหลอกลวงที่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหน้าตา แต่ยังคงใช้กลยุทธ์เดิมคือ “สัญญาผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น” โดยแฝงเทคโนโลยีทันสมัยมาเพิ่มความน่าเชื่อถือ บทเรียนสำคัญคือ นักลงทุนต้องระวังกับคำพูดที่ดูดีเกินจริง และควรตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยได้ในระยะยาว.
Exness
FXCM
STARTRADER
GO Markets
FXTM
Trive
Exness
FXCM
STARTRADER
GO Markets
FXTM
Trive
Exness
FXCM
STARTRADER
GO Markets
FXTM
Trive
Exness
FXCM
STARTRADER
GO Markets
FXTM
Trive