简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:สรุปราคาทองคํา วานนี้ปิตปรับตัวลดลง 5.20 ตอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ในระหว่างวันราคาทองคําจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,790.02 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่กลับเผชิญแรงขาย
สรุปราคาทองคํา วานนี้ปิตปรับตัวลดลง 5.20 ตอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ในระหว่างวันราคาทองคําจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,790.02 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่กลับเผชิญแรงขาย ทํากําไรในที่สุด นอกจากนี้ ราคาทองคํายังได้รับแรงกดดันเพิ่มการเปิดเผยยอดขายบ้านมือสอง และดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์ที่ออกมาดีกว่าที่คาด ส่งผลให้ราคาทองคําอ่อนตัวลง ทดสอบระดับต่ําสุดบริเวณ 1,772 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ดี ราคาทองคําฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง โดยกลับมาได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายพาวเวล ประธานเฟด ซึ่งมีกําหนดแถลงต่อ คณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์ COVID-19 ประจําสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้ โดยนายพาวเวลาชัดว่า “เฟตจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วเกินไปเพียงเพราะกังวลเกี่ยวกับภาวะเงิน เฟอ” และเฟดจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมีสัญญาณของการฟื้นตัว ในวงกว้างและครอบคลุม ทั้งในตลาดแรงงานและเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ สัญญาณที่สะท้อนว่าเฟดจะยังไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย เป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์และสร้างแรงหนุนเข้ามาพยุงราคาทองคําเอาไว้ แต่การปรับตัวขึ้นของราคาทองคํายังคงเป็นไปอย่างจํากัดเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกว่าเฟดอาจปรับลดวงเงิน ในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในปลายปีนี้ หรือ ต้นปีหน้า นั่นทําให้เกิดแรงขายทํากําไรสลับเข้ามาในตลาดทองเป็นระยะ
ด้านกองทุน SPDR ถือครอง ทองคําไม่เปลี่ยนแปลง สําหรับวันนี้ติดตามผลการประชุมทนง.ของไทย การเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่, ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของสหรัฐ รวมถึงติดตามถ้อยแถลงของนาง โบว์แมน หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด, นายบอสติก ประธานเฟตแอตแลนตา และนายโรเซนเกรน ประธานเฟดบอสตัน
หากการอ่อนตัวลงของราคาทองคําไม่มากและยังสามารถรักษาระดับเหนือแนวรับได้ ราคาทองคํายังมีลุ้นดีดขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,790-1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคําไม่สร้างระดับตํ่าสุดใหม่ของสัปดาห์ก่อนหน้า จะให้เกิดแรงซื้อทํากําไรสลับเข้ามาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ประเมินแนวรับที่ 1,767-1,761 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะนํา เสี่ยงเปิดสถานะซื้อเพื่อทํากําไรระยะสั้นเมื่อ ราคาอ่อนตัวลงมาใกล้ 1,767-1,761 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,761 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หรือหาก รับความเสี่ยงได้ไม่มาก หรือ หากถือครองทองคําอยู่แล้ว อาจเลือกชะลอการเข้าซื้อ
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
กลางเดือนมิถุนายน 2568 ราคาทองคำในประเทศไทยพุ่งสูงจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และเงินบาทที่อ่อนค่า ร้านค้าทองบางแห่งถึงขั้นหยุดซื้อ–ขายชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง นักลงทุนควรติดตามข่าวสาร เข้าใจกลไกราคา และระมัดระวังการตัดสินใจท่ามกลางภาวะตลาดผันผวนสูง
บทความนี้เปรียบเทียบบิทคอยน์และทองคำในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในด้านจำนวนจำกัด ความสามารถในการเก็บมูลค่า ความปลอดภัย และความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย ทั้งสองสินทรัพย์มีบทบาทในการป้องกันความเสี่ยงและตอบโจทย์นักลงทุนในลักษณะที่ต่างกัน — บิทคอยน์เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงและสนใจเทคโนโลยีใหม่ ส่วนทองคำเหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงระยะยาว บทสรุปเสนอแนวทาง “กระจายการลงทุน” ถือทั้งสองสินทรัพย์ตามสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างโอกาสและความปลอดภัยในพอร์ตลงทุน
แจ้งไลฟ์สดโดย คุณเพชร จากเพจ "เพชรพร้อมเทรด" ในวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 – 15.00 น.
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าไม่เสื่อมสลายและสามารถช่วยรักษาความมั่งคั่งในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจหรือการเงินที่ผันผวน มันมีคุณสมบัติเป็น "สินทรัพย์ปลอดภัย" และให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว การลงทุนในทองคำสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการซื้อทองคำแท่ง กองทุนรวมทองคำ หรือผ่าน Gold ETFs และ Gold Futures นักลงทุนควรเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับเป้าหมายและระยะเวลาการลงทุน เพื่อเพิ่มความมั่นคงและกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน.
FXCM
Saxo
EC Markets
GTCFX
Trive
KVB
FXCM
Saxo
EC Markets
GTCFX
Trive
KVB
FXCM
Saxo
EC Markets
GTCFX
Trive
KVB
FXCM
Saxo
EC Markets
GTCFX
Trive
KVB