简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:‘Bitcoin’ มีวัฎจักรสำคัญที่เกิดขึ้นทุกๆ 4 ปี โดยเรียกว่า “The Halving” ซึ่งเป็นการลดอัตราการเกิดของเหรียญ Bitcoin ใหม่ลงครึ่งหนึ่งทุกๆ 4 ปี
ดูเหมือนว่าในปัจจุบันนี้ตลาดคริปโตจะมีความครึกครื้นเป็นอย่างมาก ไม่ว่าราคาที่พุ่งสูงขึ้น หรือดิ่งลง ก็สามารถทำให้นักลงทุนต่างเสียวสันหลังกันไปเป็นแทบๆ อาจเป็นเพราะ ‘Bitcoin’ มีวัฎจักรสำคัญที่เกิดขึ้นทุกๆ 4 ปี โดยเรียกว่า “The Halving” ซึ่งเป็นการลดอัตราการเกิดของเหรียญ Bitcoin ใหม่ลงครึ่งหนึ่งทุกๆ 4 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้เหรียญ Bitcoin ที่ถูกขุดได้มีมากเกินไป เริ่มจาก 50 เหรียญทุกๆ 10 นาที โดยจำนวนเหรียญ Bitcoin มีทั้งหมด 21 ล้านเหรียญ และคาดว่าจะถูกขุดจนหมดในปี 2140 หรืออีกร้อยปีต่อจากนี้
สรุปก็คือ ในหนึ่งวัฏจักรของ ‘Bitcoin’ จะประกอบไปด้วย 4 ปี ซึ่งในระยะเวลา 3 ปีแรกนั้นราคาของ ‘Bitcoin’ จะค่อยๆ ดิ่งลง แต่เมื่อเข้าสู่ปลายปีที่ 3 และ ต้นปีที่ 4 ราคาของ ‘Bitcoin’ จะดีดตัวสูงขึ้น สังเกตจากภาพวงกลมวงแรกคือปลายปี 2013 ไปยังวงที่ 2 คือปลายปี 2017 ราคาจะค่อยดีดตัวขึ้นสูงในปีที่4 ดังนั้นในปี 2018 ราคา ‘Bitcoin’ จึงตกลงตลอดเพราะถือเป็นปีแรกของวัฏจักรใหม่ แต่พอเข้าปี 2021 ที่ถือเป็นปีที่ 4 ของวัฏจักรใหม่ครั้งนี้ ราคา ‘Bitcoin’ จะขึ้นและปีหน้าจะตกวนซ้ำไปเรื่อยๆนั่นเอง
โดยเป็นที่รู้กันดีว่าเหรียญแม่อย่าง ‘Bitcoin’ นั้น มีอิทธิพลส่งผลกระต่อราคาตลาดคริปโตมากแค่ไหน หากราคาของ ‘Bitcoin’ พุ่งสูงขึ้น ราคาเหรียญอื่นๆ ในตลาดก็จะพุ่งสูงขึ้นด้วย ในทางกลับกันหากราคาดิ่งลง ‘Bitcoin’ ก็จะลากราคาเหรียญอื่นๆ ดิ่งลงมาด้วยเช่นกัน สังเกตได้จากการทวิตของ ‘Elon Musk’ ที่ส่งผลให้ราคาของ ‘Bitcoin’ ตกลงมาในเดือนทีแล้ว ทำให้ราคาเหรียญอื่นๆ ตกตามลงมาด้วย
ทั้งนี้ทุกคนไม่ต้องตกใจเพราะถ้าหากนับเวลาตามวัฏจักรของ ‘Bitcoin’ แล้ว ปี 2021 นี้ ราคาของ ‘Bitcoin’ จะฟื้นฟูขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงครึ่งปีหลัง ถึงแม้จะอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างน้อย แต่เพิ่มขึ้นแน่นอน
เมื่อไม่นานมานี้มีนักวิเคราะห์ชื่อดัง Willy Woo ได้อธิบายในทวีตว่า หนึ่งในโมเดลทำนายราคาของเขาคาดการณ์ว่า เรากำลังจะได้เห็นโมเมนตัมราคา ‘Bitcoin’ ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล โดยโมเดลของเขาได้คาดการณ์ว่า ราคา ‘Bitcoin’ อาจมีการซื้อขายกันอยู่ในช่วงระหว่าง 200,000 ถึง 300,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2022
“โมเดลทำนายราคาของผมชี้ให้เห็นว่าราคา Bitcoin ที่ระดับ $200,000 ภายในช่วงสิ้นปี 2021 นั้นยังถือว่าค่อนข้างน้อยไปหน่อยและมันอาจมีมูลค่าสูงถึง $300,000 อ้างอิงตามการซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ $7,456 ” ทั้งนี้หากราคาของ ‘Bitcoin’ สูงขึ้น คุณคงรู้แล้วนะว่าราคาเหรียญอื่นๆ ในตลาดคริปโตจะเป็นอย่างไร
ติดตามข้อมูลข่าวสารวงการคริปโต พร้อมตรวจสอบ Exchange ทั่วโลก รวบรวมข้อมูล Shitcoin และโครงการเถื่อน ได้ที่….
App : “WikiBit” (ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ ฟรี!)
Facebook : https://www.facebook.com/Wikibit.th/ (กด SEE FRIST เพื่อที่คุณจะไม่พลาดข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ จากทางเพจ)
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ปลายปี 2017 คือจุดพีคของกระแส Bitcoin ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของการรวยเร็ว ราคาพุ่งทะยานจาก $1,000 สู่เกือบ $20,000 ในเวลาไม่ถึงปี จนเกิดกระแส FOMO ไปทั่วโลก ผู้คนเทขายทรัพย์สินเพื่อเข้าตลาด แต่เมื่อต้นปี 2018 ฟองสบู่แตก ราคาดิ่งลงอย่างรุนแรง สะท้อนบทเรียนสำคัญว่า “ตลาดที่ขึ้นเร็ว มักลงแรง” แม้ภายหลังคริปโตจะฟื้นตัวและพัฒนาต่อไป แต่เหตุการณ์ปี 2017 ยังเป็นรอยจำของนักลงทุนรุ่นเก่า เตือนใจให้คิดให้รอบคอบก่อนลงทุน และอย่าหลงไปกับกระแสโดยไม่เข้าใจสิ่งที่ถืออยู่
Robinhood เปิดตัวโทเคนหุ้นอ้างอิงบริษัทดังอย่าง OpenAI และ SpaceX แม้หุ้นยังไม่ IPO จุดกระแส Tokenization แต่กลับถูกตั้งคำถามเรื่องความโปร่งใส เมื่อพบว่าโทเคนเหล่านั้นอาจไม่ใช่หุ้นจริง ไม่ได้ให้สิทธิ์ผู้ถือ และอาจเป็นเพียงตราสารอนุพันธ์บนบล็อกเชน ด้าน OpenAI ปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทำให้ตลาดเริ่มตั้งข้อสงสัยว่า “นี่คือการลงทุนจริง หรือแค่ภาพลวงตา” บทเรียนสำคัญสำหรับนักลงทุนยุคใหม่: อย่ามองแค่ชื่อแบรนด์ ต้องตรวจสอบเบื้องหลังว่า "ถืออะไรอยู่จริง"
Ricardo Salinas มหาเศรษฐีอันดับ 3 ของเม็กซิโก ออกโรงเตือนถึงภัยจาก ระบบเงินเฟียต (Fiat money) ที่ไม่มีอะไรค้ำประกัน พร้อมประกาศชัดว่า Bitcoin และทองคำ คือทางรอดของความมั่งคั่งในยุคเศรษฐกิจเปราะบาง “บ้านสร้างเพิ่มได้…แต่ Bitcoin มีจำกัด” Salinas มองว่าอสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่ที่เก็บมูลค่าอีกต่อไป เพราะถูกเงินเฟ้อกัดกิน ขณะที่ Bitcoin เป็น “Hard money” ที่ไม่มีใครควบคุมได้ และพกพาได้ไร้พรมแดน เขายังจี้ให้พิจารณารีไฟแนนซ์บ้าน แล้วเอาเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต้านเงินเฟ้อแทน พร้อมวิจารณ์แรงว่า…“เงินเฟียตคือเครื่องมือขโมยความมั่งคั่งของประชาชน”
ปลายเดือนมิถุนายน 2568 นักลงทุนคริปโตถูกปล้นเงินสดกว่า 3.4 ล้านบาทกลางลานจอดรถห้างดังย่านลาดพร้าว ขณะทำธุรกรรมซื้อขายเหรียญดิจิทัลกับกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนและมีดในการก่อเหตุ ผู้เสียหายได้นัดหมายซื้อขายล่วงหน้า ก่อนถูกบุกปล้นและหลบหนีโดยรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวน พบมีการวางแผนล่วงหน้า เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นความเสี่ยงสูงของการทำธุรกรรมนอกระบบและถือเงินสดจำนวนมากในตลาดคริปโต
IronFX
Doo Prime
HFM
AvaTrade
GTCFX
FXTM
IronFX
Doo Prime
HFM
AvaTrade
GTCFX
FXTM
IronFX
Doo Prime
HFM
AvaTrade
GTCFX
FXTM
IronFX
Doo Prime
HFM
AvaTrade
GTCFX
FXTM