简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า มูลค่าตลาดหรือมาร์เก็ตแคปของสกุลเงินคริปโตเคอเรนซีพุ่งทะลุ 2 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ (5 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของเงินอีเธอร์ (Ether) ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลใหญ่ที่สุดอันดับสองรองจากบิทคอยน์
เว็บไซต์ CoinGecko ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดิจิทัลเปิดเผยว่า ในเวลาเพียง 2 เดือนกว่า มูลค่าตลาดของเงินคริปโตเคอเรนซีเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า เนื่องจากทั้งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันได้พากันเข้าซื้อเงินดิจิทัล
บิทคอยน์ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลใหญ่ที่สุดนั้น มีสัดส่วนมากกว่า 50% ของมูลค่าตลาดเงินคริปโตทั้งหมด โดยบิทคอยน์ทะยานขึ้นมากกว่า 100% แล้วในปีนี้ และทำให้มาร์เก็ตแคปของตลาดเงินคริปโตพุ่งทะยานขึ้นอย่างมาก
Coindesk เปิดเผยในวันนี้ว่า บิทคอยน์ปรับตัวอยู่ที่ราว 58,800 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือ 61,000 ดอลลาร์ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ตลาดเงินคริปโตได้แรงหนุนล่าสุดจากการปรับตัวขึ้นของเงินอีเธอร์ โดย CoinDesk เปิดเผยว่า เงินอีเธอร์ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,151.25 ดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาสิงคโปร์ และปรับตัวขึ้นมากกว่า 180% แล้วในปีนี้
บริษัทต่างๆ เข้าซื้อเงินอีเธอร์เพิ่มขึ้น โดยเหม่ยตู้ (Meitu) ซึ่งเป็นผู้สร้างแอปของจีนได้ซื้ออีเธอร์เป็นมูลค่าถึง 22.1 ล้านดอลลาร์ในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นหนึ่งในบริษัทรายแรกๆ ที่เข้าซื้อเงินอีเธอร์
ขณะที่บิทคอยน์ยังคงได้รับความสนใจจากบริษัทและนักลงทุนสถาบันรายใหญ่เช่นกัน โดยบริษัทเทสลา (Tesla) และสแควร์ (Square) เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่เข้าซื้อบิตคอยน์จำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา
ถ้าโดนโบรกเกอร์ Forex โกงมาแนะนำให้คุณเข้าไปที่ การเปิดเผย ของแอพ WikiFX เพื่อแฉโบรกเกอร์ อย่าปล่อยให้คนโกงลอยนวล ยิ่งคุณแฉโบรกเกอร์จะยิ่งกลัว รีบบบบเลย
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
คาโบสุ เจ้าหมาชิบะจากมีมโด่งดัง กลายเป็นแรงบันดาลใจสร้างเหรียญ Dogecoin ในปี 2013 ที่เติบโตจากความขำขันสู่คริปโตพันล้าน ดาราอินเทอร์เน็ตผู้นี้รอดพ้นโรคร้าย และมีอนุสาวรีย์ในญี่ปุ่น สัญลักษณ์ของความจริงใจและพลังอินเทอร์เน็ตที่ไม่มีวันเลือนหาย
บทความกล่าวถึงตอน “Burger Kings” จาก The Simpsons ที่แสดงราคาของ Bitcoin ว่า “Infinity” พร้อมเสียดสีตลาดหุ้นผ่านหุ้น GameStop ที่ราคาพุ่งและดิ่งสุดโต่ง เนื้อเรื่องยังสะท้อนพฤติกรรมเก็งกำไรของนักลงทุนทั่วไป ทั้งนี้ The Simpsons เคยพาดพิงคริปโตและเหตุการณ์สำคัญมาก่อน จึงชี้ให้เห็นถึงการยอมรับของสื่อกระแสหลักต่อสินทรัพย์ดิจิทัลในยุคปัจจุบัน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวของ แบร์รี ซิลเบิร์ต (Barry Silbert) หนึ่งในผู้บุกเบิกและทรงอิทธิพลที่สุดในอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี ผู้มองเห็นศักยภาพของบิตคอยน์ตั้งแต่ปี 2012 และต่อมาได้ก่อตั้ง Digital Currency Group (DCG) ในปี 2015 เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของระบบการเงินโลกด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน DCG กลายเป็นผู้เล่นหลักที่มีบทบาททั้งด้านการลงทุนและโครงสร้างพื้นฐานของคริปโต โดยมีพอร์ตลงทุนในบริษัทชั้นนำกว่า 200 แห่ง และเป็นเจ้าของ Grayscale Investments, CoinDesk และ Genesis ซึ่งล้วนมีอิทธิพลต่อการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในภาคการเงินแบบดั้งเดิม บทความชี้ให้เห็นถึงกลยุทธ์ วิสัยทัศน์ และความสำเร็จของ Silbert ในการนำคริปโตเข้าสู่ระบบการเงินโลก โดยเริ่มจากเงินทุนเพียง 25 ล้านดอลลาร์ และเติบโตเป็นผู้บริหารสินทรัพย์มูลค่ากว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ภายในไม่ถึงทศวรรษ
Meme Coins คือเหรียญดิจิทัลที่เริ่มจากเรื่องตลกในอินเทอร์เน็ต แต่กลับสร้างความเปลี่ยนแปลงเขย่าวงการการเงินโลกได้จริง ด้วยพลังของกระแส โซเชียลมีเดีย และความหวังของนักเก็งกำไรรายย่อย แม้บางคนจะกลายเป็นเศรษฐี แต่ก็มีอีกมากที่ขาดทุนยับแบบไม่ทันตั้งตัว เหรียญมีมจึงเป็นทั้งโอกาสและกับดัก ที่นักลงทุนต้องรู้ทันก่อนจะโดดเข้าไปในเกมสุดผันผวนนี้ อยากให้แปลงเนื้อหานี้เป็นโพสต์แบบให้ความรู้แบบกระชับ หรือแนววิดีโอสคริปต์สำหรับคอนเทนต์ TikTok/YouTube Shorts ดี?